วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2559

#ฟิคคุณแม่ยังสาว Chapter 19 : Be Graduate [DoTen]









                ความอดทนของโดยองไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อสามนาทีที่แล้ว แต่เขาอดทนมาตั้งแต่ตอนจูบครั้งแรกของเราที่กังนึง เป็นธรรมดาของผู้ชายที่จะคิดอกุศลเมื่อได้อยู่ใกล้คนที่ชอบ แต่เพราะรักมากจึงต้องนึกถึงอนาคตของคนที่รักให้มากๆ เขาไม่อยากให้ความรัก ความพิศวาสทำลายอนาคตของเตนล์ดังนั้นจึงอดทนมาตลอดกระทั่งวันนี้ที่เราสามารถรับผิดชอบชีวิตกันและกันได้ ที่อีกฝ่ายอนุญาตให้เขาได้เชยชมกายบางอย่างเต็มใจ

                เสียงครางอื้ออึงในลำคอบ่งบอกว่าร่างเล็กพึงพอใจกับสัมผัสจากฝ่ามือใหญ่ที่สอดหายเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวโคร่ง ไล้วนไปตามแผ่นหลังเนียนสวยพร้อมกับขึ้นคร่อมตัวของเขาไว้ เตนล์ยกมือขึ้นคล้องลำคอแกร่ง เชิดหน้าขึ้นรับเรียวลิ้นกระหวัดชิมความหอมหวาน ไม่ว่าเหตุผลของการตอบรับที่ดีนี้จะเป็นเพราะห่างหายจากการมีเซ็กส์มานาน หรือเพราะเตนล์วางใจฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้จึงได้ปล่อยตัวไปตามสัมผัสวาบหวาม นั่นเป็นเรื่องดีสำหรับโดยอง

                คนตัวสูงผละจูบเพื่อให้จ้องมองใบหน้าแดงซ่าน เขาอมยิ้มเช่นเดียวกับเตนล์ที่ปรือตาหวานฉ่ำมองเขา ก่อนซุกหน้าลงกับลำคอระหง สูดดมกลิ่นหอมเฉพาะตัวพร้อมกับขบเม้มสร้างรอยรัก โดยองเลิกเสื้อยืดขึ้นจนถึงอก ให้เรียวลิ้นทำหน้าที่สร้างความกระสั่นตรงยอดอกสีหวาน ฝ่ามือของเตนล์เลื่อนขึ้นออกแรงขยำเส้นผมนุ่มเพื่อระบายความเสียงซ่านที่เล่นงานและกัดกินความเป็นตัวเองทีละนิด


                “อะ..อ๊ะ..อา...”


                ปลายจมูกโดนหน้าท้องแบนราบเล่นเอาหดเกร็งทันที โดยองหัวเราะในลำคอ เขาหยุดอยู่ตรงขอบกางเกงวอร์มก่อนจะปลดปมเชือกก่อนดึงลงมาไว้ที่เข่า เกี่ยวชั้นในสีขาวออก เผยให้เห็นแกนกายเริ่มขยายตัว คนตัวเล็กเบือนใบหน้าแดงซ่านหนีภาพชวนให้เขินอายตรงหน้า ยิ่งได้เห็นแววตาเป็นประกายของโดยองยิ่งไม่กล้าพอที่จะสอบตาอีกฝ่าย ทว่าโดยองที่ค่อยๆใช้มือกอบกุมส่วนนั้นโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ปลายจมูกคลอเคลียอยู่ที่พวงแก้ม ผ่อนลมหายใจร้อนในจังหวะที่รุนแรงและดุดันแข่งกับเสียงครางแหบพร่าของเขา


                “อื้ม..อะ..โดยอง..”


                เผลอหนีบขาเข้าหากันแน่น บิดเกร็งไปทั้งตัว โดยองจูบที่ริมฝีปาก เรี่ยวแรงของเตนล์ลดลงมาก สังเกตได้จากมือเล็กที่หล่นลงวางตรงบ่า บีบเป็นระยะ ขึ้นอยู่กับจังหวะในการขยับฝ่ามือ

                เตนล์ผ่อนลมหายใจทางริมฝีปาก เหงื่อท่วมกายบางและร่างสูง กระทั่งโดยองเพิ่มความเร็วขึ้น เปลือกตาปิดแน่น เผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว ก่อนทุกความรู้สึกจะถูกปลดปล่อยอกมาเป็นธารสีขาวขุ่นเต็มฝ่ามือใหญ่ เตนล์หอบหายใจแรงพลางพยุงกายขึ้นนั่ง จัดการถอดเสื้อยืดคนตัวสูงออก แขนเล็กโอบรอบลำคออีกครั้ง ค่อยไล่จุมพิตตั้งแต่สั่นกราม โดยองขบกรามแน่นจนลำคอมีเส้นเอ็นขึ้นชัดเจน เตนล์จูบมันอย่างหลงใหล ก่อนจะถูกดันให้นอนลงอีกครั้ง ลดระยะห่างให้สั้นลงด้วยการทำให้หน้าผากของเราแนบชิดกัน

                ก็พอรู้อยู่ว่าเตนล์น่ะขี้อ้อน แต่ไม่คิดว่าจะถึงคิดลุกขึ้นมาระดมจูบให้เขาเสียววาบไปทั้งตัว แถมตอนนี้ยังเรียกร้องให้โดยองมอบจูบไม่หยุด เป็นฝ่ายเริ่มสอดลิ้นเข้าเกี่ยวพันก่อน แถมยังปลดปมเชือกกางเกงของเขา ล้วงเอาท่อนเอ็นร้อนออกมา โดยองแปลกใจไม่น้อย ทั้งที่เมื่อกี้ยังแสดงออกมาขี้อายแท้ๆ แต่พอถอดเสื้อให้เขาแล้วก็กลายเป็นคนละคน มั่นใจมากขึ้น แถมยังกล้าทำในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงอย่างการขยับฝ่ามือเป็นจังหวะนั่นด้วย


                “อื้ม...อือ..”


                เตนล์ไม่ใช่คนบ้าดีเดือดที่จะทำให้โดยองโดยไม่รู้สึกอะไร เพราะแบบนั้นจึงได้ร้องขอให้อีกฝ่ายจูบซ้ำๆ อย่างน้อยจูบนี่ก็ใช้กลบเกลื่อนความเขินอายของเขาได้บ้าง แบบนี้ค่อยดูเหมือนเขาเป็นฝ่ายให้ของขวัญหน่อย

                เสียงทุ่มในลำคอ ลมหายใจร้อน และแรงดูดดึงเรียวลิ้นที่ริมฝีปากทำเอาเตนล์อ่อนระทวย สุดท้ายจำต้องละมือออกจากแกนกายเมื่ออีกฝ่ายใช้จังหวะนั้นสอดปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางสีหวาน กายบางสะดุ้งผวากอดร่างตรงหน้าแน่น ซบหน้าลงกับอกกว้าง


                “อ๊า!! โดยอง..อึก..เรา..เบาให้เราหน่อย..อึก..ได้ไหม”


                ได้ยินดังนั้นจึงแช่ปลายนิ้วไว้ ส่วนมืออีกข้างปรนเปรอแกนกายให้พองนูนอีกครั้ง แน่นอนว่ามันได้ผล ริมฝีปากบางอ้าค้างส่งเสียงครางผะแผ่วเล็ดลอดให้รู้ว่าคร่างกายกำลังทำการปรับตัว ทันทีที่เปลือกตาปิดลงเป็นสัญญาณให้เริมขยับปลายนิ้วเข้าออกเชื่องช้า


                “อ๊ะ..อา..อะ..”


                ภาพที่เห็นทำให้โดยองรู้ว่าที่ผ่านมาเขาแค่อดทนไม่ให้ตัวเองทำอะไรล่วงเกินเตนล์ แต่เมื่อโอการมาถึงเขาเองก็ต้องอดทนควบคุมสติตนเองให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้ร่างตรงหน้าบาดเจ็บจากความรุนแรงอันเกิดจากอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นเพราะได้เห็นท่าทางยั่วยวนโดยไม่รู้ตัวของอีกฝ่าย

                ช่องทางสีหวานถูกเพิ่มจำนวนนิ้วสำหรับเตรียมความพร้อม เสียงครางดังขึ้นเรื่อยจนกลัวว่าแม่และน้องสาวที่นอนอยู่ชั้นบนจะได้ยินเข้า โดยองจัดการเก็บเสียงด้วยการประกบริมฝีปากอีกครั้ง ฟังเสียงครางหนักหน่วงแทนคำพูดขอร้องให้เพิ่มความเร็ว กระทั่งแน่ใจว่าร่างเล็กพร้อมแล้วจึงได้ถอนปลายนิ้วพร้อมกับผละออก


                “ฉันไม่ใส่ถุงนะ”


                “รับผิดชอบด้วยล่ะ”


                โดยองหลุดยิ้ม ก่อนยกขาเรียวทั้งสองข้างพาดบ่า จับแกนกายของจ่อช่องทางค่อยกดลงทีละนิด ขนาดที่ต่างจากนิ้วมือค่อนข้างมากทำให้เตนล์ต้องกัดริมฝีปากระบายความเจ็บปวด


                “อื้อ...โดยอง...อึก..มันเจ็บ..”


                “หายใจเข้าลึกๆ จับแขนฉันไว้”


                เตนล์ทำตามทันที เขารู้สึกผ่อนคลายเพียงเล็กน้อยก่อนจะรับรู้ว่าอีกฝ่ายเริ่มขยับกายแล้ว และความรู้สึกดีค่อยไต่ขึ้นตามลำดับ สูงขึ้น..สูงขึ้น เช่นเดียวกับแรงกระแทกที่แรงขึ้น..แรงขึ้น..

                โดยองโน้มกายลงเพื่อให้ได้ยินเสียงครางและลมหายใจร้านใกล้ๆ มือเล็กของเตนล์วางลงตรงแผ่นหลังกว้าง เล็บคมครูดเป็นทางยาวตามกนกายที่สอดใส่เข้ามาอย่างล้ำลึก เชิดใบหน้าขึ้นส่งเสียงครางดังลั่น โดยองใช้จังหวะนั้นซุกใบหน้าสูดดมกลิ่นหอมที่ซอกคอขาวอีกครั้ง กระตุ้นความต้องการให้เพิ่มขึ้นไปอีก

                “อ๊ะ! อะ...อ๊ะ...โดยอง..อื้ม”

                “อืม..อา...เตนล์”

                สมองที่มีเพียงสีขาวโพลนของเตนล์ส่งผลให้ทุกอย่างดูเลือนราง ทั้งที่มือเกาะอยู่ที่ลำคอแกร่งแต่ในความคิดกลับไม่สามารถจับต้องโดยองได้ ริมฝีปากจึงเอาแต่พร่ำเรียกชื่อคนรักซ้ำๆ

                ความอดทนความสะบั้นเมื่อร่างเล็กรั้งใบหน้าเข้าไปมอบจูบ วางมือลงบนอกแกร่ง ลูบไล้มันแผ่วเบาซ้ำๆ โดยองประคองสะโพกมนไว้ กระแทกแกนกายเร็วกว่าเดิม กายบางสั่นสะท้าน สะโพกลอยหวือ กัดริมฝีปากแน่น เชิดหน้าขึ้นครางลั่นทันทีที่มือใหญ่บีบบั้นท้ายซ้ำๆกระตุ้นให้ถึงฝั่งฝันเร็วขึ้น


                “อื๊อ...อ๊า...โดยอง!! เร็วอีกนิด..อื๊อ...อ๊ะ..อ้า!!


                คนตัวสูงกระแทกกายซ้ำ 2-3 ครั้งก่อนเราทั้งสองจะแตะถึงฝั่งฝันพร้อมกัน ความอุ่นร้อนฉีดพ่นเข้าไปในช่องทางจนทะลักออกเปื้อนง่ามขา เตนล์หอบหายใจอย่างหนัก เช่นเดียวกับโดยองที่ทิ้งตัวลงนอนทับกายบาง ซบหน้าลงกับอกบาง มือเล็กวางลงที่ศีรษะคนตัวโต โดยองหลุดยิ้ม รู้ทั้งรู้ว่าหลังจากเสร็จกิจกรรมนี้เตนล์จะต้องเหนื่อยมากแท้ๆ แต่คนตัวเล็กก็ยังแสดงความน่ารักไม่หยุด ดูอย่างตอนที่กำลังลูบหัวเขา ราวกับเขาเป็นลูกแมวของเจ้าตัวสิ..


กลับไปอ่านต่อที่บทความ >> https://goo.gl/c4ptEj

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

#ficbetray Chapter 12 - Behind the Scenes [HunBaek]









                เซฮุนเบียดกายเข้าหาร่างเล็กจนอีกฝ่ายเสียการทรงตัวใช้มือเกาะที่ไหล่กว้างแน่นโดยที่ริมฝีปากของเรายังไม่ละออกจากกัน แบคฮยอนเป็นเหมือนสารเสพติดที่ยิ่งได้กลิ่นเฉพาะตัว ได้สัมผัส ได้ยินเสียงครางอื้ออึงยิ่งอยากทำมากกว่านั้น มือใหญ่สอดเข้าใต้เสื้อยืดลูบไล้แผ่นหลังเนียนสลับกับดันให้ร่างกายของเราแนบชิดกันมากขึ้นราวกับต้องการทดแทนเวลาร่วมเดือนที่เราไม่ได้เจอหน้ากัน..

                แบคฮยอนอยากถามว่าเกิดอะไรขึ้น อยากรู้ว่าที่ผ่านมาอีกฝ่ายเป็นอย่างไรบ้าง แต่ดูเหมือนเซฮุนจะไม่ได้เตรียมเวลามาเพื่อตอบคำถามพวกนั้น คนตัวเล็กเอาซุกไซ้ซอกคอมหอม ขบเม้มทำรอยรักสีกุหลาบไว้ แล้วจึงใช้มือดึงเสื้อยืดออกจากกายบาง

                อากาศหนาวทำเอาร่างเล็กสั่นเทิ้ม ผวาโบรอบคอแน่นเพราะถูกยกตัวให้ลอยขึ้นก่อนเซฮุนจะวางเขาลงบนเตียงและตามมาคร่อม ใช้แขนงสองข้างกักตัวไว้ ก้มลงมอบจูบซ้ำๆจนน้ำสีใสไหลตรงมุมปาก

                มือสากเริ่มทำงานอีกครั้ง เริ่มจากการประคองจูบและไปยังลำคอและยอดสีหวานทีกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ เซฮุนใช้มือเป็นตัวนำทางให้สัมผัสที่วาบหวามกว่านั้น เขาค่อยลากริมฝีปากไปตามการนำทางของมือ จูบแรงๆตรงไหปลาร้าที่ขึ้นเด่นชัดใต้ลำคอ แล้วค่อยครอบครองยอดอก เม้มริมฝีปากสลับกับโลมเลีย ความจริงเซฮุนไม่เคยทำเรื่องแบบนี้กับใครที่ไหนหรอก ไม่รู้ว่าทำอย่างไรอีกฝ่ายจึงจะพอใจ เขาศึกษามันจากหนังโป๊ที่เคยดูเมื่อนานมาแล้ว ดังนั้นเสียงครางกระเส่าจึงเป็นเหมือนรางวัลที่บอกให้รู้ว่าสัมผัสจากริมฝีปากของเขาชวนให้ใจรัญจวนมากแค่ไหน


                “อ๊ะ..อา..”


                แบคฮยอนหนีบขาแน่น ยิ่งริมฝีปากไล้เล็มร่างกายเขาต่ำลงเท่าไหร่ กายบางก็ยิ่งบิดเร้ามากเท่านั้น หน้าท้องหดเกร็ง หายใจติดขัด ผิดกับเซฮุนที่พยายามหายใจเข้าออกเป็นปกติเพื่อควบคุมไม่ให้ตนเองเผลอลงมือรุนแรงกับร่างกายอีกฝ่ายตามอารมณ์ที่พุ่งสูงจากท่าทางยั่วยวนโดยไม่ได้ตั้งใจ

                จัดการถอดกางเกงคนรักแล้วเหวี่ยงมันให้ลงไปอยู่ที่พื้นเหลือแค่ชั้นในตัวบางปกปิดร่างกายไว้

                “ซ-เซฮุน เดี๋ยว” เจ้าของชื่อหยุดชะงักทันที

                “กลัวเหรอ?”

                คนตัวเล็กส่ายหน้า เอื้อมมือไปรั้งใบหน้าหล่อให้เข้าใกล้ก่อนกดจูบลงที่ริมฝีปาก ขบเม้มและพยายามเอาใจด้วยการแทรกลิ้นให้อีกฝ่ายได้ดูดดึงลักเอาความหอมหวานไปจากปากของตน

                “เราเป็นห่วงเซฮุนมากนะ..แล้วก็คิดถึงเซฮุนมากๆเลยด้วย”

                “ฉันเองก็เหมือนกัน”

                “เราอยู่ที่นี่จะปลอดภัยใช่ไหม”

                “แน่นอน...ที่นี่ปลอดภัย และเรามีเวลามากพอที่จะทบทวนความรักระหว่างเรานะ”

                สายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาจับจ้องมายังใบหน้าร่างเล็ก แบคฮยอนยิ้มขลายอาย ใบหน้าถูกประคองเพื่อรับจูบจากคนรักอีกครั้ง ขณะเดียวกันมืออีกข้างก็กำลังดึงชั้นในตัวจิ๋วออก สัมผัสเสียววาบไปทั่วทั้งหน้าท้องเกิดขึ้นเมื่อฝ่ามืออุ่นรุ่นกำรอบแกนกายที่ชูชัน ยามมือใหญ่ขยับขึ้นลงเชื่องช้าแบคฮยอนครางอื้ออึงในลำคอเพราะริมฝีปากยังคงถูปิดด้วยอวัยวะเดียวกัน

                มีการขัดขืน และไม่ได้รู้สึกอึดอัดเหมือนกับตอนที่ร่วมรักกับจงอินเลยสัดนิด แม้ทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ผู้ชายคนนี้แคร์เขามาก และสัมผัสจากการเล้าโลมนั่นร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆจนรู้สึกปวกเปียกไปทั้งกาย

                “อื้อ! เซฮุน! อ่ะ...เร็วอีกนิด อ้า!

                ทันทีที่ได้รับคำบัญชาก็เร่งจังหวะขึ้นทันที ใบหน้าน่ารักขึ้นสีแดงเป็นริ้วเช่นเดียวกับผิวกายขาวเนียนที่กลายเป็นสีแดงจัด ริมปากเผยอครางลั่นตามจังหวะร้อนที่ได้รับ ก่อนกระตุกเกร็งและปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นเลอะมือใหญ่

                เซฮุนจูบผมนุ่ม หน้าผาก จบลงตรงริมฝีปาก ก่อนผละออกมาจัดการกับกางเกงของตนเอง แบคฮยอนใช้ข้อศอกยันกายขึ้นนั่งแล้วจึงเอื้อมมือไปช่วยปลดตะขอ กัดริมฝีปากช้อนตามองร่างสูงตอนรูดซิปลงแล้วส่งมือลงไปสัมผัสกับแกนกายที่พองคับอยู่ภายใน

                เซฮุนขบกรามแน่นส่งเสียงครางในลำคอ ใบหน้าหล่อแสดงอาการสุขสมและเสียงทุ้มที่เอ่ยชื่นชมทำให้แบคฮยอนใจสั่น เซฮุนส่งมือไปหยุดการกระทำนั้นเมื่ออารมณ์พุ่งสูงขึ้น ร่างเล็กยิ้มบาง นั่งคุกเข่าที่เตียงเอื้อมมือลูบสันกรามพร้อมกับจูบไล่ลงมาจนถึงลำคอ ก่อนจะผลักให้เซฮุนนอนลงบนเตียงและเปลี่ยนเป็นฝ่ายคุมเกมแทน

                แบคฮยอนทิ้งสะโพกลงที่กลางลำตัวของอีกฝ่าย สิ่งที่กันอวัยวะของเราไว้คือชั้นในของเซฮุนเท่านั้น คนตัวเล็กโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้กระทั่งปลายจมูกของเราชนกัน จึงเปลี่ยนเป็นคลอเคลียที่ลำคอแกร่ง จูบเบาๆสลับกับขยับตัวเพียงเล็กน้อย แบคฮยอนก็ได้ยินเสียงสูดปากจากเซฮุนแล้ว

                ร่างสูงยกสะโพกคนรัก ดึงชั้นในของตนเองออก แกนกายขยายใหญ่ชูชันขึ้นชี้หน้าร่างเล็กที่แดงไปทั้งตัวแต่ยังให้ความร่วมมือกับการร่วมรักครั้งนี้เป็นอย่างดี แบคฮยอนสูดลมหายใจเข้าลึกระหว่างที่เซฮุนสอดก้านนิ้วเข้ไปในช่องทางสีหวาน ใบหน้าหวานเหยเกเพราะความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามา จิกเล็บลงกับไหล่กว้างเชิดหน้าขึ้นส่งเสียงครางกระเส่า

                “อ๊ะ..อ้า ซ-เซฮุน เรา..อึก..เรา”

                “หายใจเข้าลึกๆ”

                พูดพลางใช้มืออีกข้างรูดรั้งแกนกายเล็กให้กลับมาพร้อมใช้งานอีกครั้ง ริมฝีปากไล้เลียหยอกล้อกับยอดอกสีหวาน กระตุ้นอารมณ์ก่อนรับศึกหนักต่อจากนี้

                เมื่อเห็นว่าช่องทางพร้อมแล้วร่างสูงใช้มือแหวกกลีบเนื้อให้อีกฝ่ายสามารถทิ้งตัวลงมาได้ ช่องทางสีหวานค่อยกลืนกินแกนกายที่ใหญ่กว่าก้านนิ้วเมื่อครู่หลายเท่า ซบหน้าลงกับไหล่หอบหายใจแรงจนเซฮุนอดไปห่วงไม่ได้ นี่อาจหนักเกินไปสำหรับแบคฮยอน ร่างสูงเชยคางมนให้รับจูบพร้อมกับกดร่างเล็กลงอย่างระมัดระวัง คอยฟังเสียงครางประท้วงที่ดังเป็นระยะ

                “แบคฮยอน..อื้ม..ไหวหรือเปล่า”

                “อึก..มาถึงขนาดนี้แล้ว..อ่ะ..จะให้หยุดได้ยังไง”

                “แต่...”

                “ช่วยเรา..อ๊ะ”

                เสียงหอบหายใจดังขึ้นข้างหู ร่างเล็กพยายามขยับสะโพกเชื่องช้า แกนกายที่เข้าไปลึกนั่นทำเอาร่างบางเสียววาบไปทั้งท้อง สุขสมไม่ต่างอะไรจากการที่แกนกายใหญ่ถูกตอดรัดแน่น แขนเล็กเปลี่ยนเป็นโอบล้อมรอบคอ สอดนิ้วเข้ากับกลุ่มผมสีเข้มดูสุภาพดี จิกทึ้งผมระบายความเสียวซ่านที่แทรกลึกเข้ามาในกาย

                “อ๊ะ อื้อ! เซฮุน”

                ร่างสูงหายใจเข้าลึกก่อนเด้งสะโพกสวนกลับไปเป็นจังหวะที่เร็วขึ้นเรื่อยๆ สลับกับจูบที่ลำคอและไหปลาร้า เสียงครางดังขึ้นตามการเร่งจังหวะ

                “อืม..แบคฮยอน..”

                “อ๊ะ...อ๊า!!

                เซฮุนขบกรามครางเสียงทุ้ม ก่อนจะเร่งจังหวะในช่วงสุดท้าย ร่างเล็กกระตุกเกร็งอีกครั้ง ปล่อยหยาดน้ำสีขาวขุ่นพุ่งเลอะหน้าท้องเช่นเดียวกับเซฮุนที่ปล่อยความอุ่นร้อนข้างในช่องทาง

                แบคฮยอนทิ้งแขนลงข้างลำตัวซบหน้าลงกับอกกว้าง หอบหายใจหนัก เซฮุนยกกายเพื่อถอนแกนกายออก รั้งร่างเล็กให้นอนลงบนเตียง ใช้แขนโอบกอดเอวบางไว้ ก่อนมอบจุมพิตที่หน้าผากมนและริมฝีปาก



กลับไปอ่านที่บทความ > > https://writer.dek-d.com/camera-smile/story/viewlongc.php?id=1447631&chapter=14


วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2559

#ฟิคคุณแม่ยังสาว Chapter 10 - Be Connive [JaeTen]








                จูบของเราไม่เคยลึกซึ้งขนาดนี้มาก่อน แจฮยอนยังคงดูดดึงและขบเม้มริมฝีปากของเขาอยู่อย่างนั้น แขนทั้งสองข้างที่โอบรอบคำอ่อนแรง เตนล์รู้สึกเหมือนตนเองเป็นช็อกโกแลตในถ้วยที่ถูกวางไว้ และแจฮยอนเป็นความร้อนที่ค่อยหลอมละลายเขาช้าๆ

                สัมผัสเย็นเฉียบจากฝ่ามือสอดใต้เสื้อยืดสีหวาน พร้อมๆกับที่แจฮยอนดันร่างเล็กนอนราบไปบนฟูก ริมฝีปากของรายังคงมอบจูบให้กัน ก่อนจะผละออกมาสบตาเพียงวินาทีสั้นๆ ดวงตาหวานฉ่ำของเตนล์ปรือมองเขา ความปรารถนาจากตัวเขาสะท้อนเป็นเงาอยู่นัยน์ตา และเมื่อปิดเปลือกตาอีกครั้ง จมดิ่งอยู่ในความมืด ยิ่งทำให้ร่างกายของเขาไวต่อความรู้สึกวาบหวามที่เกิดขึ้นจากการที่ริมฝีปากขบเม้มตามลำคอ ไล่มาถึงไหปลาร้า ก่อนที่แจฮยอนจะถอดสียืดอีกฝ่ายออก แล้วครอบครองยอดอก
สีหวาน

                เตนล์ไม่รู้ว่าควรจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไร ความรู้สึกที่มีทั้งความกลัว อยากรู้ อยากลอง และอยากให้อีกฝ่ายสัมผัสเขามากกว่านั้น สมองของเขาขาวโพลนเกินกว่าจะคิดอะไรได้ในตอนนี้ มือถูกทิ้งไว้ข้างลำตัวกำผ้าห่มที่เคยคลุมตอนดูภาพยนตร์ด้วยกันไว้แน่นจนเกิดรอยยับเด่นชัด ระหว่างที่แจฮยอนไล่พรมจูบต้นแขน ไล่มาจนถึงหน้าท้องแบนราบที่หดเกร็งเพราะไม่คุ้นชินกับสัมผัสเสียวซ่านที่ชวนให้หัวใจทำงานหนัก

                “อ๊ะ...อา”

                น่าอาย...มันน่าอายเกินไป เตนล์คิดว่าตนควรยกมือขึ้นปิดริมฝีปากไว้ไม่ให้ส่งเสียง แต่ถึงอย่างนั้น ลิ้นร้อนไล้วนใกล้สะดือทำให้เขาไม่สามารถดึงมือออกจากผ้าห่มได้ ยิ่งคนรักเลื่อนลงไปเท่าไหร่ ความเสียวซ่านก็ยิ่งทวีคูณ และมันก็มากพอที่จะทำให้เขาส่งเสียงครางดังขึ้นเรื่อยๆ

                “จ-แจฮยอน...อึก...อ๊ะ...”

                ผู้ชายคนนั้นหยุดชะงัก เสียงกระเส่าที่ได้ยินไม่ได้มีเพียงความสุขสม แต่ยังแฝงความกลัวไว้ในนั้น และเพราะเขารู้สึกได้จึงยืดตัวขึ้นจูบริมฝีปากเตนล์อีกครั้ง ดึงมือเล็กมาประสานกันไว้

                “ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวนะ”

                ร่างเล็กพยักหน้า แม้จะกลัว แม้จะรู้ว่าหลังจากนี้จะมีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายตามมามากมาย แต่ตอนนี้ เขาไม่อยากจบทุกอย่างลงเพียงเท่า

                รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะตอนที่แจฮยอนค่อยดึงกางเกงขายาวของเขาร่นไปถึงเข่า ตามด้วยชั้นในสีขาว เตนล์เบือนหน้าหนีลอบซ่อนใบหน้าแดงซ่านของตน ร่างโปร่งโน้มตัวลงกดจูบที่ต้นขา ไล่มายังซอกขาและไม่ลืมที่จะกดจูบบนแกนกายเล็กแผ่วเบา เพียงเท่านั้นก็ทำให้ร่างเล็กบิดเกร็งไปทั้งตัว

                แจฮยอนใช้มือรูดรั้งแกนกายช้าๆ ภาพที่เห็นตรงหน้าคือใบหน้าสุขสมของคนรัก ดวงตาเรียวฉ่ำเยิ้มปรือมองเล็กน้อย ฟันขบกัดริมฝีปากตัวเองราวกับการกระทำนั้นจะสามารถระบายความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นได้ ไม่มีเสียงครางแหลมหูแบบที่เคยดูในหนังผู้ใหญ่ ไม่มีท่าทางอ้อนออด ยั่วเย้า หรือแม้แต่การปล่อยตัวปล่อยใจมากพอที่จะตอบสนองด้วยการกระทำแบบเดียวกันกับเขา แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเตนล์

                “อ๊ะ..ฮ่ะ..อ๊ะ”

                การเก็บอารมณ์ไว้และให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไปเป็นเรื่องยากหากยึดเอาสัญชาตญาณของผู้ชายเป็นหลัก แต่ถึงอย่างนั้นแจฮยอนก็ไม่กล้าพอที่จะทำรุนแรงกับคนรัก เราทั้งคู่ยังใหม่มากกับเรื่องนี้ จึงทำได้เพียงขยับข้อมือให้เร็วขึ้น เพิ่มให้เตนล์ปลดปล่อยได้เร็วขึ้น และพร้อมสำหรับการร่วมรักของเรา

                “อึก..อ๊า..แจ..แจฮยอน เราอึดอัด”

                “อยากให้เร็วกว่านี้หรือเปล่า”

                ไม่มีคำตอบที่เป็นคำพูด คนตัวเล็กคิดว่าแค่พยักหน้าตอบรับก็กระดากอายมากพอแล้ว เขาเผลอตัวปล่อยให้มือเลื่อนลงไปสัมผัสกับข้อมือร่างโปร่ง ริมฝีปากเผยอขึ้น พ่นลมหายใจที่ควบคุมยากขึ้นทุกที แจฮยอนรูดรั้งแกนกายอีกสองถึงสามครั้ง หยาดน้ำสีขาวขุ่นถูกปลดปล่อยจนเลอะไปทั้งมือ

                เตนล์นอนหอบหายใจแรงหลังจากได้ปลดปล่อยไปบ้างแล้ว เขาไม่ใช่พวกเด็กเนิร์ดที่เรียนหนักจนไม่รู้จักการช่วยตัวเอง แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ต้องทำเรื่องแบบนั้นทุกวัน ทุกสัปดาห์ และเพราะแบบนั้นจึงทำให้เขารู้สึกโล่งใจ พึงพอใจกับการได้ปลดปล่อยในครั้งนี้

                แจฮยอนโถมตัวเข้ามอบจูบให้เขา ตอนนั้นเองที่เตนล์ได้ยินเสียงจากโน้ตบุคซึ่งยังคงถูกตั้งไว้ในตำแหน่งเดิม แม้จะไม่ชัดนักเพราะเสียงครางของตน และกดจูบดังกลบมันจนหมด แต่เขาก็พอรับรู้และเดาได้ว่าสถานการณ์ในภาพยนตร์ที่เขาเปิดค้างไว้ตอนนี้ไม่สู้ดีนัก

                มือสากวกกลับมาลูบสีข้างและเอวบางก่อนจะเลื่อนขึ้นบีบเค้นหน้าอกขณะมอบจูบเร่าร้อนที่ทำเอาน้ำลายไหลจากมุมปากไปตามโครงหน้าหวานและลำคอขาว

                ร่างโปร่งใช้จูบแลกลิ้นเป็นตัวเบนความสนใจในการสอดนิ้วไปยังช่องทางสีหวานของคนรัก และทันทีที่ความเย็นเฉียบพบเจอกับผนังอุ่นร้อน ร่างเล็กสะดุ้งสุดตัว พร้อมส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ แจฮยอนจึงเพิ่มแรงบดจูบอีกครั้ง เขารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องดี แต่ถ้าเราจบทุกอย่างแค่ตรงนี้ก็คงไม่ได้..นอกจาก สิ่งที่เขาตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก..จุดประสงค์ที่แท้จริงที่เขามาค้างที่นี่ ทำแบบนี้กับเตนล์ตั้งแต่แรกก็จะหายไปด้วย

                ความดันทุรังอาจทำให้สำเร็จ แต่ใช่ว่าจะพอใจเสมอไป เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายคุ้นชินแล้ว แจฮยอนจึงถอนนิ้วออก ก่อนจะผละออกมาถอดกางเกงนอนของตนออกบ้าง แกนกายใหญ่โตตรงหน้าทำเอาเตนล์หน้าซีด สมองเริ่มประมวนผล และเขาเกิดตั้งคำถามกับตัวเองขึ้นมาในวินาทีนั้นว่าจริงๆแล้วเขาพร้อมหรือไม่..พร้อมที่รับมือกับแกนกายตรงหน้า พร้อมที่จะรับกับคำพูดก่นด่าของเพื่อน...พร้อมที่จะเผชิญกับอนาคตของเขาที่จะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแล้วหรือยัง



แต่แค่ครั้งเดียว คงไม่เป็นไรหรอก..
จริงไหม..



                “อ๊า!!

                ยังไม่ทันหาคำตอบให้ตนเองได้ แจฮยอนก็กระแทกแกนกายเข้ามาแล้ว ผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นซี้ดปากเพราะความคับแน่น และความเจ็บแปลบบริเวณแผ่นหลังเพราะอีกฝ่ายใช้เป็นที่ระบายความเจ็บปวด ร่างโปร่งแช่แกนกายไว้ครู่หนึ่งเพื่อให้อีกฝ่ายสามารถปรับตัวได้ แล้วจึงค่อยขยับเนิบนาบ เชื่องช้า

                “อื้ม..เตนล์..ซี๊ด..อ่า..”

                “จ-แจฮยอน...อึก...เบาลงหน่อย”

                “ทนอีกนิดนะ..อืม..อย่าเกร็งล่ะ หายใจเข้าลึกๆ..อ่า...แบบนั้น”

                เตนล์คงพร้อมแล้วถึงสามารถขยับสะโพกรับกับจังหวะกระแทกของเขาได้ แจฮยอนตัดสินใจผลิกตัวให้อีกฝ่ายขึ้นมาอยู่ด้านบนและนั่งทับแกนกายของตนไว้ ร่างเล็กเชิดหน้าขึ้น ครางลั่นห้องพักพร้อมแกนกายเข้าไปลึกเกินไป แขนแกร่งใช้ประครองกายเล็กสั่นระริก

                “อื้อ แจฮยอน..เรา..”

                ไม่สามารทรงตัวได้แล้ว เพราะอีกฝ่ายเล่นกระแทกกายสวนเข้ามา เน้นย้ำจนต้องซบลงกับแผงอกแกร่ง และปล่อยให้อีกฝ่ายล่วงเกินจนพอใจ ขณะเดียวกันในความล่วงเกินนั้นก็นำพาความสุขสมในแบบที่เขาคิดไม่ถึงมาให้ เตนล์อ้าปากครางแผ่วจนถึงนาทีสุดท้ายที่แจฮยอนกระแทกกายรุนแรงสองสามครั้งและความอุ่นร้อนพุ่งอยู่ในช่องทางรัก

                “อ๊ะ..ฮ้ะ...อ๊า!

                “อื้มมม..เตนล์”


                เราทั้งคู่หอบหายใจหนัก เตนล์ปิดเปลือกตาลงตั้งใจฟังเสียงหัวใจของตนสลับกับเสียงหัวใจคนรักที่เต้นดังกังวาน ตอนนั้นเองที่แจฮยอนโน้มใบหน้าลงมาจุมพิตที่กลุ่มผมของเขาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะผลิกตัวให้ร่างเล็กได้นอนข้างกาย เพราะเราทำกิจกรรมเร่าร้อนมาหมาดๆทำให้ห้องที่ควรจะเย็นจัดเพราะอากาศหนาวกลับอบอ้วนขึ้นมาทันที แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังซุกกายอยู่ใต้ผ้าห่มเพื่อปกปิดร่างกายเราไว้ ร่างเล็กขยับตัวซุกกายเข้าหาอ้อมกอดของคนรัก ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองอีกฝ่าย



อ่านต่อได้ที่บทความในเด็กดีเลยนะคะ
เพราะยังมือใหม่กับฉากคัทมาก ยังไงก็ฝากติชมด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่า ><

วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

#ficbetray Chapter 5 - Room In Warehouse [KaiBaek]






                “ถ้างั้นเรามาทำสัญญากันดีไหม”

                “...”

                “ว่าเราจะอยู่ข้างกันแบบนี้ตลอดไป”

                เริ่มต้นจูบกันอีกครั้งโดยที่ร่างเล็กไม่ทันตั้งตัว สัมผัสอุ่นร้อนนั้นกำลังขบเม้มและดูดดึงซ้ำๆ ราวกับต้องการบอกบางอย่าง มือซุกซนปัดป่ายไปทั่วก่อนจะสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดของคนตัวเล็ก ลูบแผ่นหลังบางด้วยความหลงใหล

                แบคฮยอนรู้สึกเหมือนจะขาดใจให้ได้ มือเล็กกำเสื้ออีกฝ่ายแน่น แม้จะเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัส ลึกๆแล้วเขากลับรู้สึกประหม่าและต้องการหยุดมันเสีย...จริงอยู่ว่าเขาไม่ใช่เด็กๆแล้ว และเคยรับรู้เรื่องพวกนี้ผ่านสื่อต่างๆ แต่ถ้าให้พูดถึงประสบการณ์จริงล่ะก็..นี่ถือเป็นครั้งแรก และเขาก็พอเดาได้ว่าจงอินตั้งใจจะให้มันไปในทิศทางไหน

                “อึก..อื้อ”

                เสียงหวานหลุดครางแผ่วเบาเมื่อมือหนาเลื่อนมาเค้นคลึงหน้าอกของตน จงอินผละจูบ ก่อนจะซุกหน้าลงกับซอกคอขาว กดจูบซ้ำๆเพราะไม่ต้องการให้อีกฝ่ายตกเป็นเป้าสายตาของคนในโรงเรียน

                “จงอิน..อึก..หยุด..ก่อน”

                “เรากำลังทำสัญญาร่วมกันอยู่นะ”

                ไม่รู้หรอกว่าแบคฮยอนมองสิ่งที่กำลังทำตอนนี้อย่างไร แต่สำหรับจงอินแล้ว เขามองว่าเป็นการผูกมัดอย่างหนึ่ง ความกลัวที่แบคฮยอนจะทิ้งไปเพราะรู้การกระทำของเขาก็เป็นส่วนหนึ่ง และความคิดที่ว่าตอนนี้แบคฮยอนอาจมีความลับบางอย่างต่อเขาเป็นอีกส่วนที่ทำให้เขาทำเรื่องพวกนี้



แบคฮยอนจะได้ไม่หนีไปจากเขา
หรือต่อให้คิดจะหนี ความสัมพันธ์ทางกายก็จะทำให้คนตัวเล็กกระดากอายเกินกว่าจะมีรักใหม่



                “อ๊ะ..อ้า!

                จงอินไม่สนว่าเสียงร้องนั่นจะดังแค่ไหน เขาดึงเสื้อยืดร่างเล็กออก ก่อนจะใช้ริมฝีปากดูดดึงยอดอกสีหวานอย่างหิวกระหาย ราวกับว่าเวลาที่ผ่านมเขาได้ใช้ความอดทนอย่างยิ่งกับร่างตรงหน้า มือหนาไล้ไปตามเอวบาง ก่อนจะเลื่อนมาที่สะโพกและเค้นคลึงจนอีกฝ่ายส่งเสียงร้องลั่น

                เกลียด..ที่ตัวเองเป็นแบบนี้
                เกลียดที่ปฏิเสธใครไม่เป็น เกลียดที่ตัวเองอ่อนหัดกับเรื่องแบบนี้ และเกลียดเสียงตัวเองที่เอาส่งเสียงน่าอายออก และเอ่ยเรียกชื่อจงอินซ้ำๆ แบคฮยอนใช้มือปิดริมฝีปากตัวเองกลั้นเสียงเหล่านั้นเอาไว้ ขอบตาร้อนผ่าวเมื่อรู้ตัวว่าถูกดันให้ถอยหลังไปยังเตียงนอนเก่าๆด้านใน

            ทันทีที่แผ่นหลังบางสัมผัสกับเตียงริมฝีปากหนาไล่พรมจูบตั้งแต่เนินไหล ผ่านแผ่นอกบางที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจที่รุนแรงขึ้น ไล้มาที่หน้าท้องซึ่งหดเกร็งทุกครั้งที่เขาใช้ริมฝีปากสัมผัสมัน

                “อ๊ะ..อา..จง..อิน”

                มือเล็กทั้งสองข้างกำผ้าปูเตียงสีซีดไว้แน่น เมื่อก่อนใครก็ตามที่มานอนบนเตียงนี้ล้วนแล้วแต่มาด้วยความเจ็บปวด แผลเหวอะบ้างล่ะ โดนยิงแล้วต้องมาผ่ากระสุนที่นี่บ้างล่ะ ทุนคนที่มาต่างก็ส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด และในตอนนี้แบคฮยอนก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่เสียงร้องของเขามันมาจากความเสียวซ่านที่จงอินมอบให้

                ชายหนุ่มผิวแทนหันมาถอดเสื้อยืดของตนเองออก เผยให้เห็นกล้ามลอนกล้ามเนื้อช่วงหน้าแทน และสองแขนตามแบบของคนรูปร่างดี มันไม่เยอะเหมือนพวกเล่นกล้ามหนัก แต่มากพอจะทำให้หัวใจของแบคฮยอนเต้นรัว และยิ่งทำงานหนักกว่าเดิมเมื่อจงอินลงมือปลดขอกางเกงของเขา ก่อนจะรูดมันลงไปให้อยู่ตรงข้อเข่า

                ล้วงมือไปใต้ชั้นในสีขาว สัมผัสผ่านแกนกายเล็กที่ชูชันขึ้นก่อนหน้านี้ เพียงแค่แผ่วเบา ร่างเล็กก็บิดเร้าทั้งตัว

                “อื้อ..ไม่..อ๊ะ ไม่นะจงอิน”

                มันเป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในใจ เสียงหนึ่งกำลังบอกให้เขายอมโอนอ่อนตามจงอินซะ ไอ้ความรู้สึกผิดทั้งหมดจะได้หายไปสักที แต่เสียงกลับบอกให้เขาหยุด กลับมาคิดถึงตัวเองได้แล้ว สิ่งที่ทำลงไปตอนนี้ก็น่าละอายมากพอแล้ว



แต่ไม่ว่าแบคฮยอนจะเลือกทำตามเสียงไหนในใจ
คิมจงอินก็ให้มันจบลงในแบบที่เจ้าตัวต้องการอยู่ดี



                เริ่มชักรูดแกนกายช้าๆ ให้คนใต้ร่างได้ส่งเสียงครางกระเส่า ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น จนสะโพกมนเผลอสวนรับกับฝ่ามือหนา แบคฮยอนไม่สามารถหักห้ามใจตนเองได้อีกแล้ว ไม่สามารถรั้งความกระดากอายต่อไปได้แล้ว เมื่อความรู้สึกรุกคืบเข้ามาขึ้น และไล่ความขลาดอายอย่างไม่ใยดี..ร่างเล็กกำลังปล่อยให้ร่างกายทำตามใจตนเอง

                “อ๊ะ..อ้ะ..อ๊า..ช้า..อึก..ช้าหน่อย อื้อ”

                จงอินก้มลงไปจูบอีกครั้งขณะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น จนแบคฮยอนปลดปล่อยออกมาเลอะมือและหน้าท้องเป็นลอนสวยในที่สุด คนผิวแทนผละออกเพื่อดูใบหน้าน่ารักขึ้นสีนั้นหอบหายใจ ดวงตาเรียวปรือมองมาที่เขา ส่งมือเล็กมาทาบข้างแก้มของเขาอีกครั้ง เราสบตากันในช่วงเวลาสั้นๆก่อนจะรั้งคออีกฝ่ายเข้ามาจูบ

                จงอินเลือกให้จูบและมือข้างนึงบีบคลึงสะโพกเพื่อเบนความสนใจจากช่องทางสีหวานซึ่งเขากำลังใช้นิ้วสอดเข้าไป ช่องทางคับแน่นปิดสนิททำให้ทุกอย่างยากลำบาก เสียงครางอื้ออึงในลำคอของคนตัวเล็กก็เช่นกัน

                ใช้เวลาพอสมควรกว่าที่จงอินจะชำแรกนิ้วเข้าไปได้ เขาผละจูบเพื่อดูอาการของอีกฝ่าย แน่นอนว่าสิ่งที่ได้รับต้องเป็นเสียงหอบหายใจ และ...

                “อึก..จงอิน..ฉัน..อ๊ะ..ฉันเจ็บ”

                “ผ่อนคลายหน่อย..หายใจเข้าลึกๆ”

                ยิ่งควานนิ้วก็ยิ่งหอบหายใจแรงขึ้น แบคฮยอนดูเซ็กซี่ทุกครั้งที่เขามองไปบนใบหน้าน่ารักแล้วพบกับเหงื่อชื้อบริเวณขมับและผมหน้าม้า แผ่นอกบางที่กระเพื่อมขึ้นลง ไปจนถึงเสียงหายใจ หรือแม้แต่เสียงครางหวานที่เรียกชื่อเขา

                “อีกนิดเดียว..สัญญาของเราก็จะเสร็จแล้วล่ะ”

                “อ๊ะ!! อื้อ..จงอิน..อึก..ตรงนั้น”

                กระแทกนิ้วที่จุดเดิมซ้ำๆ พลางเพิ่มจำนวนนิ้วไปด้วย ขยับให้รัวเร็ว ก่อนจะชักนิ้วออกเพื่อเตรียมส่งสิ่งที่ใหญ่กว่านั้นเข้าไปยังช่องทางด้านหลัง เขาปลดกางเกงตัวนอก และชั้นในออก แกนกายใหญ่ปรากฏให้เห็นตรงหน้า เขารูดรั้งมันด้วยมือสองสามครั้ง ก่อนจะจับมือจ่อเข้ากับปากทาง

                ค่อยกดเข้าไปทีละนิด แบคฮยอนรู้สึกเหมือนกดท้องเมื่อทุกอย่างหดเกร็งตามสัญชาตญาณเมื่อเจอสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย มันจุกไปหมด คาดว่าถ้าคิมจงอินนึกสนุกและขยับมันล่ะก็ เขาจะต้องจุกมากแน่ แต่ยังไม่ทันตั้งตัว คนผิวแทนก็ยกขาทั้งสองข้างของเขาพาดบ่า ก่อนจะโถมตัวเข้าใส่จนแกนกายเข้าไปอย่างล้ำลึก

                “อ๊า!!!

                “อืม..ดีมากเลย..อ่า..แบคฮยอน..ผ่อนคลายหน่อย”

                เสียงครางต่ำดังขึ้นใกล้ๆ ราวกับเสียงกระซิบทำเอาขนลุกไปหมด แบคฮยอนพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ขอบตาที่ร้อนผ่าวตั้งแต่ตอนแรกถูกปล่อยให้หยาดน้ำไหลลงตรงหางตา เขามองใบหน้าคนรักอีกครั้ง สีหน้าของจงอินเหยเกเพราะความเสียว และเชื่อเถอะว่าผู้ชายคนนั้นกำลังสุขสม แม้ว่าเขาจะต้องทรมานมากก็ตาม

                เปลือกตาสีนวลปิดลง เขาไม่ต้องการเห็นสีหน้าพึงพอใจของจงอิน เขายินดีให้ร่างกายนี้หากมันจะทำให้จงอินสบายใจเรื่องเขาจะทิ้งไปได้บ้าง และยินดีหากมันช่วยไถ่โทษของเขาที่มีใจให้กับเพื่อนสนิทของอีกฝ่าย




ขอโทษ..ขอโทษจริงๆนะจงอิน



                “อ่ะ..อ้ะ...อ๊ะ...จง..อึก..อิน..อ๊า!!””

                จงอินขยับกายเข้าออกเร็วขึ้น จนกลายเป็นว่าตอนนี้เขากระแทกเอาโดยไม่สนใจว่าแบคฮยอนจะรู้สึกยังไง แค่ได้ยินเสียงครางเรียกชื่อเขาก็ตีความเอาว่าร่างเล็กรู้สึกดีเช่นเดียวกัน ก้มลงจูบริมฝีปากฉ่ำ ดูดดึงกระหวัดลิ้นหยอกล้อให้น้ำสีใสเปรอะไปทั่วทั้งริมฝีปาก

                แทบขาดใจกับการกระแทกที่รุนแรงนั้น มือเล็กเปลี่ยนจากกำผ้าปูเตียงเป็นเกาะไหล่กว้างเมื่อรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายต้องการกระแทกให้ล้ำลึกกว่าเดิม ความรู้สึกเสียวซ่านไล่ขึ้นมามากขึ้น กระทั่งอยู่ในจุดที่ทำเอาสติของเขาหลุดลอย

                “อ้ะ...อ่ะ....อ๊า....”

                “อืม...”

                คราบสีขาวขุ่นถูกปล่อยออกมาจากแกนกายเล็กเลอะหน้าท้องอีกครั้ง พร้อมกับความอุ่นร้อนที่ฉีดเข้าไปในช่องทางสีหวาน หลังจากเสร็จกิจเราต่างก็หอบหายใจกันทั้งคู่ แต่ในตอนนั้นจงอินคงไม่ทันสังเกตว่าคนตัวเล็กปล่อยให้น้ำตาไหลอีกครั้ง..ถ้าการมีเซ็กส์คือการผูกมัด และทำให้คนเรารักกันมากขึ้น ก็เป็นไปได้ว่าครั้งนี้อาจได้ผล


ยังมีต่ออีกนิด เข้าไปอ่านและเม้นท์ตามลิ้งก์นี้เลยฮับ >> http://goo.gl/r9vycD