วันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

#แฟนกันวันกีฬา Day 9 : Sport Day [DoTen]







                “ถอดวิกแล้ว..ให้พี่ช่วยถอดชุดด้วยไหม..”

                ความอ่อนประสบการณ์ทำให้ไม่ทันระวัง..เตนล์เม้มริมฝีปากชั่งใจก่อนพยักหน้าอย่างเขินอาย พร้อมกับลุกขึ้นยืนเพื่อให้อีกฝ่ายทำอะไรได้สะดวกขึ้น

                เสื้อตัวนอกถูกถอดออกช้าๆ คนตัวเล็กหลบสายตาที่มองมาอย่างลึกซึ้ง ผ้าเนื้อดีร่นลงจนเห็นรอยนูนของกระดูกไหปลาร้าชัดเจน ท่อนแขนแกร่งรั้งเอวบางเข้ามาใกล้ จมูกโด่งคลอเคลียแก้มเนียนสวย ก่อนจะซุกไซร้ลำคอระหงส์ เตนล์หดคอหนี แต่แล้วสัมผัสวาหวามกลับเกิดขึ้นที่สะโพก ตอนนั้นลูกแมวตัวเล็กถึงได้รู้ว่า ถอดชุด ของโดยองไม่ใช่ถอดเพื่อส่งคืนสต๊าฟ แต่ถอดเพื่อทำในสิ่งที่คนรักกันพึงกระทำ

                พยายามกลั้นเสียงน่าอายที่ดังเพราะริมฝีปากไล่จูบต้นคอมาจนถึงหัวไหล่ เตนล์คิดว่าเขาควรยกมือขึ้นดันคนรักที่ตกอยู่ในห้วงกามรมณ์ออกห่าง แต่สัมผัสวาบหวามเหล่านั้นกำลังฉุดรั้งให้เขาดำดิ่งตามลงไป กระทั่งเตนล์ก็ตกเป็นทาสของมัน แขนเล็กๆยกขึ้นโอบรอบลำคอร่างสูง

                ยิ่งเห็นว่าน้องเปิดโอกาสยิ่งได้ใจ โดยองทรุดตัวลงนอนบนฟูกพร้อมกับดึงร่างเล็กให้ล้มทับตามมา ดวงตาฉ่ำเยิ้มเปี่ยมไปด้วยความอดอ้อน ก่อนจะเอ่ยเสียงอ้อมแอ้มร้องขอให้คนรักจูบตนอีกครั้ง คนตัวสูงจึงจูบเบาๆอย่างฉาบฉวย พอเห็นว่าเตนล์ขมวดคิ้วก็หลุดยิ้มมุมปาก แล้วจึงผลิกตัวขึ้นคร่อมอีกฝ่ายไว้

                ในที่สุดโดยองก็ยอมมอบจูบแบบที่เตนล์ต้องการ ทั้งลึกซึ้งดูดดึงราวกับต้องการดูดกลืนร่างเล็กเข้าไปทั้งตัว จูบที่บอกว่าสติและการยับยั้งชั่งใจของเราทั้งคู่น้อยลงทุกที

                คนมากประสบการณ์ดึงชายกระโปรงลงต่ำ หวังถอดมันออกขณะที่ยังคงมอบความสุขด้วยจูบร้อนแรง เตนล์เผลอหุบเขาเข้าหากันเมื่อเหลือเพียงกางเกงขาสั้น เขาดันคนรักออก ยันกายลุกขึ้นนั่ง หอบหายใจอย่างหนัก..

                โดยองจะไม่ถามว่าอยากให้ทำต่อหรือเปล่า เพราะแววตาและท่าทางของเตนล์กำลังฟ้องถึงความต้องการที่ไม่น้อยไปกว่าเขา จึงตัดสินใจพูด..ในสิ่งที่คิดว่าจะสามารถสานต่อกิจกรรมของเขาต่อได้..

                “ถอดเสื้อให้พี่หน่อยได้ไหม..”

                อาย..เตนล์อายเกินกว่าจะทำแบบนั้น เขาช้อนตาขึ้นมองเพราะอยากของความเห็นใจ แต่วันนี้โดยองขี้แกล้งกว่าที่คิดเอาไว้ ผู้ชายคนนั้นจับมือของเขาให้จับชายเสื้อบาสสีแสดของตน โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ กระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงแหบพร่า..

                “ถอดสิ..”

                สิ้นเสียงทุ้มแก้มทั้งสองข้างก็แดงซ่านจนถึงหู เตนล์เอาแต่มองพื้นตอนที่ถอดเสื้อออกเพราะจะเผลอมองกล้ามเนื้อที่ท่อนแขนและหน้าท้องจนกลายเป็นเด็กลามกในสายตาของโดยอง...เสียงหัวเราะทุ้มกำลังท้าทายเขา และเมื่อตวัดสายตามองค้อนเตนล์จึงรู้ว่าตนตัดสินใจผิด เขามองเห็นกล้ามทุกส่วนชัดเจน และที่สำคัญ..นั่นยังเป็นการเปิดโอกาสให้ร่างสูงจูบเขาอีกครั้ง..

                โดยองยังคงฉวยโอกาสอย่างต่อเนื่อง เขาจูบ..พร้อมกับส่งไปบีบเค้นตามส่วนต่างๆ ปลุกเร้าร่างเล็กให้บิดเกร็งจนไม่หลงเหลือความเป็นตัวเอง ยอดอกสีหวานถูกครอบครองด้วยริมฝีปาก เขาลิ้มรสมันราวกับเป็นของหวานชั้นเลิศ เตนล์ส่งเสียงกระเส่าหวังระบายความเสียวซ่าน โดยไมรู้ตัวเลยสักนิดว่าเสียงครางของตนกระตุ้นความต้องการร่างสูงมากขึ้น..ยิ่งต้องการมากเท่าไหร่..โดยองยิ่งอยากทำให้เซ็กซ์ครั้งนี้ร้อนแรงมากขึ้นเท่านั้น...

                “กางเกงนี่จะถอดเองหรือให้พี่ถอดให้ดี”

                คนขี้แกล้ง!!

                เตนล์มองค้อน เพราะเห็นสายตากรุ่มกริ้ม ร่างเล็กไม่ตอบ แต่แก้เผ็ดอีกฝ่ายด้วยการเอนตัวลงบนฟูก ชันขาทั้งสองขาพร้อมกับแยกออกให้เห็นเป้ากางเกงที่นูนขึ้นและรอยแฉะเป็นวงกว้างเพราะแรงอารมณ์ที่พุ่งสูง โยนให้ร่างสูงเป็นฝ่ายตัดสินใจ

                “ยั่วพี่เหรอ?”

                โดยปกติแล้วเตนล์มักจะตอบปฏิเสธ..แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป

                “ก็..พี่บอกว่าจะช่วยถอดชุดให้ไม่ใช่เหรอฮะ”

                จบประโยคร่างสูงดึงกางเกงขาสั้นลงอย่างรวดเร็ว จูบตรงท้องน้อย ก่อนจะเลื่อนลงมาสร้างรอยรักตรงต้นขาขาวด้านใน เตนล์ที่หลงผิดคิดยั่วคนหื่นอย่างโดยองไม่อาจย้อนเวลาได้แล้ว ร่างเล็กได้แต่เชิดหน้าขึ้นส่งเสียงครางปนหอบหายใจ ร่างกายสับสนไปหมด บางครั้งก็เหมือนจะหลีกเลี่ยง และบางครั้งกเหมือนต้องการอีก..อยากให้โดยองทำมากกว่านี้ อันตราย..ความเสียวซ่านอันตรายจริงๆ

                เตนล์ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป ความเขินอายกระเจิงหายไปหมด เผลอเอื้อมมือกดศีรษะคนรักให้เข้าใกล้แกนกายของตนมากขึ้น จนร่างสูงครอบครองแกนกายสีหวาน ริมฝีปากห่อเข้าหากันขณะรูดรั้งขึ้นลง เรียกเสียงครางหวานได้เป็นอย่างดี

                “อื้ออ! พี่ฮะ..พี่..ด-โดยอง..”

                ลมหายใจติดขัด และสมองขาวโพลน โดยองขยับริมฝีปากเร็วขึ้น ร่างเล็กยกสะโพกอย่างลืมตัว เปลือกตาปิดแน่น ใกล้ถึงฝั่งฝันแล้ว..เตนล์จึกทึ้งศีรษะคนรักอย่างแรง แต่จู่ๆโดยองกับหยุดขยับเสียดื้อๆ แถมยังผละออกมาสบดวงตาฉ่ำเยิ้มของเขา ริมฝีปากยกยิ้ม

                “ท-ทำไมถึงหยุดล่ะฮะ..”

                “อยากให้พี่ทำต่อขนาดนั้นเลยเหรอ?”

                “ก็..” ก็เกินเลยมาตั้งขนาดนี้แล้ว

                อายเกินกว่าจะพูด แต่คิ้วขมวดเป็นปมบอกทางอ้อมว่ากำลังไม่พอใจเอามากๆ โดยองหัวเราะ ก่อนจะใช้มือทำหน้าที่แทน

                “อ๊า!!

                ร่างสะดุ้งสะตัว เผลอหุบขาเข้าหันกันจนโดยองต้องใช้มืออีกข้างแยกขาออกให้ขยับมือได้ถนัดขึ้น แล้วโน้มตัวจูบริมฝีปากสีเชอร์รี่ สอดปลายลิ้นเกี่ยวพัน คนที่หายใจลำบากอยู่แล้วยิ่งลำบากขึ้นไปอีกเมื่อได้รับจูบ แต่ก็พยายามปรับตัวให้ได้เมื่อคิดว่านี่เป็นสิ่งที่โดยองต้องการ..

                น้ำสีขาวขุ่นพุ่งเปรอะและฝ่ามือใหญ่ โดยองผละออกมาดูใบหน้าหวานที่หลับตาพริ้ม หอบหายใจอย่างหนัก แผ่นอกบางกระเพื่อมรุนแรง เขาควรให้เตนล์ได้พักสักครู่ มือเล็กเกาะแขนร่างสูงแน่น ซบหน้าลงกับฟูกก่อนโดยองจะประคองร่างเล็กให้ซบตรงอก

                “ไหวไหมเด็กช่างยั่ว” เตนล์ช้อยตามอง ริมฝีปากยิ้มบางก่อนจะพยักหน้ารับ “แต่พี่ไม่ไหวแล้ว”

                “พี่โดยองเหนื่อยเหรอฮะ”

                “เปล่า..พี่หมายถึงพี่ทนความน่ารักเราไม่ไหวแล้ว”

                “...”

                “อาจจะอึดอัดหน่อย..แต่พี่จะอ่อนโยนนะ”

                “พ-พี่โดยอง..”

                ร่างเล็กเปลือยเปล่าสั่นเทาอีกครั้งเมื่อได้รับจูบอ่อนโยนซึ่งต่างจากเมื่อครู่ที่ค่อนข้างหื่นกระหาย สะโพกมนถูกเบ้บเค้นแรงๆเรียกเสียงครางแผ่วเบาในลำคอ มือร้อนเลื่อนมาหยุดที่ซอกขาด้านใน นิ้วเรียวคลึงเบาๆที่ช่องทางด้านหลัง ก่อนจะแทรกเข้าไป

                “อื้ออ!! อ้ะ! พี่โดยองฮะ..”

                จูบเบาๆที่หน้าผาก จมูกโด่งคลอเคลียที่พวงแก้มเรากับปลอบโยนให้อีกฝ่ายผ่อนคลาย

                “ต-เตนล์เจ็บ..”

                “หายใจเข้าลึกๆนะ”

                เสียงลมหายใจชวนให้ขนลุก เตนล์หลับตาผ่อนลมหายใจช้าๆ โดยองเห็นดังนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วพร้อมกับขยับเป็นจังหวะช้าเนิบนาบ กระทั่งมีเสียงครางเบาหวิวพอให้โล่งใจว่าเตนล์ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดกับช่วงล่างแล้ว..และพร้อมรับแกนกายของเขา

                เตนล์เบิกตากว้างเมื่อจู่ๆโดยองก็ดึงนิ้วทั้งหมดออกโดยไม่บอกกล่าว นั่นทำให้เตนล์เห็นสีหน้าของโดยองชัดเจน ผู้ชายคนนั้นขมวดคิ้ว เลียริมฝีปากราวกับกลั้นอารมณ์ ขณะที่มือข้างหนึ่งดึงกางเกงกีฬาขาสั้นออก แม้จะอายจนหน้าแดง แต่เพราะเห็นว่าโดยองทุลักทุเลเตนล์จึงยื่นมือเข้ามาช่วย..

                เมื่อไม่มีสิ่งใดปกปิดร่างกาย ประธานสีแสดดันร่างคนรักให้นอนลงบนฟูก จับขาทั้งสองข้างพาดบ่า ขยับตัวให้แกนกายเสียดสีช่องทางด้านหลังจนแฉะไปหมด

                เตนล์ได้แต่ส่ายหน้าไปมา จิกมือลงบนฟูกจนแทบขาด ฟันคมกัดริมฝีปากจนห่อเลือด ผู้ชายคนนั้นกำลังทำให้เขาอยาก...กำลังบังคับทางอ้อมให้เขาร้องขออย่างอื่นที่มากกว่านิ้วเรียว


                “พี่โดยอง..อื้ออ อย่าแกล้งสิฮะ..”

                “ไม่ได้แกล้งสักหน่อย”

                “งั้นก็..ช่วยทำให้เตนล์หายอึดอัดหน่อยสิฮะ..เตนล์อึดอัดไปหมดแล้ว..อ้ะ..นะฮะ..นะ”

                “บอกรักพี่สิ”

                ดวงตาฉ่ำเยิ้มจ้องมองกันและกันราวกับลองเชิง ก่อนเตนล์จะยัดตัวลุกขึ้น จูบที่แก้มสาก เอ่ยกระซิบข้างหูแผ่วเบา

                “เตนล์รักพี่โดยอง..ที่สุดในโลกเลย”

                “เด็กดี”

                “อื้อ!!

                เตนล์ทิ้งตัวลงบนฟูกอย่างแรง มือทั้งสองข้างยกขึ้นปิดเสียงครางที่ครั้งนี้มีแววว่าจะดังกว่าครั้งก่อนด้วยแกนกายขนาดใหญ่และแรงดันที่ขยับด้วยจังหวะรุนแรง

                โดยองแกะมือเล็กให้วางบนบ่าของตน ก้มลงจูบริมฝีปากนุ่มนิ่มเพื่อปิดเสียงครางหวาน ใช่ว่าโดยองไม่อยากได้ยิน แต่กลัวเสียงหวานๆจะดังเกินไปจนห้องข้างๆได้ยิน..กลัวว่าแทยงมันจะเดินมาอาละวาดมากกว่า

                เอวสอบขยับเป็นจังหวะเชื่องช้า ทว่าจะลึกล้ำจนเตนล์รู้สึกเหมือนจะขาดใจเอาดื้อๆ มือเล็กจิกเล็บลงบนแผ่นหลังแน่น ยอมรับว่าจุก..แต่หลังจากที่ปรับตัวเขากับจังหวะได้แล้วก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น..มันดีกว่าโพรงปากอุ่นร้อน ฝ่ามือ หรือเปล่านิ้วเป็นไหนๆ เตนล์ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัส ขยับสะโพกตามเป็นจังหวะ และบางครั้งก็แอ่นขึ้นเพื่อบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาพอใจมากแค่ไหน..

                ร่างสูงเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น เขาผละออกมาให้เตนล์ให้หายใจ ขมกรามแน่นจนสันกรามนูนเด่นชัดเจน เตนล์ลูบมันเบาๆอย่างหลงไหล ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นส่งเสียงครางพึงพอใจเมื่อร่างสูงซุกหน้าลงที่ลำคอ มือเล็กข่วนแผ่นหลังระบายความเสียวซ่านจนเป็นทางยาว ก่อนจะกระตุกเกร็งพร้อมกับความอุ่นร้อนที่ฉีดอัดเข้ามาในช่องทางจะทะลักเลอะซอกขา



กลับไปอ่านที่บทความ >> https://goo.gl/sFJbP7

วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

#เลอเล่อของจีซอง Jisung's Doll 18 : แสดงความเป็นเจ้าของ [SungLe]







                “แล้ว...ถ้าผมบอกว่ายังไม่หิว แต่อยากให้พี่จูบมากกว่าล่ะฮะ”

                จีซองไม่ปล่อยให้เด็กชายรอคำตอบนาน เขาโน้มตัวจูบริมฝีปากสีเชอร์รี่ที่โหยหา สัมผัสนุ่มนิ่มทำให้เราใจเต้นแรง และแรงขึ้นไปอีกตอนที่มือเล็กๆวางลงบนหน้าอกกว้าง กำเสื้อนักเรียนคนโตกว่าแน่นเพราะผู้ชายคนนั้นกำลังรุกล้ำร่างกาย ทั้งจูบร้อนแรง และฝ่ามือที่ลูบผ่านผิวเนียนตั้งแต่หัวไหล่ถึงใบหน้าเนียน จีซองประคองแก้มเด็กชายเพื่อให้สามารรมอบจูบได้ถนัดขึ้น

                ถามจริงๆนะ เคยเกินเลยกับน้องเขายัง?

            ถามอะไรแบบนั้นวะ น้องเค้ายังเด็กนะโว้ย

                บทสนทนาที่พูดกับแฮชานเหมือนดึงสติที่หลุดหายไปเมื่อเห็นผิวขาวเนียน ริมฝีปากฉ่ำ เขาสบตาเฉินเล่อ...นัยน์ตาของเด็กชายสั่นไหว ซึ่งขัดกับริมฝีปากที่เผยยิ้มบาง เราเป็นวัยรุ่น..และมีหลายครั้งที่เมื่อจูบแล้วจีซองอยากทำมากกว่ากว่านั้น อยากปล่อยให้เลยเถิด แต่ทุกครั้งก็มักจะมีบางอย่างเข้ามาขัดขวางเสมอ

                ยกเว้นครั้งนี้ที่ต่างออกไป บ้านทั้งหลังเงียบสนิท พ่อกับแม่ไม่อยู่ที่นี่ ไม่มีนาแจมิน ไม่มีซือเฉิง นี่เป็นโอกาสดีที่เขาจะได้ทำตามใจ ทว่าเขากลับไม่กล้าล่วงเกินร่างกายอีกฝ่าย เขาไม่ได้กลัวข้อหาพรากผู้เยาว์อะไรนั่นหรอก ถ้าเด็กคนนั้นสมยอม ทุกอย่างก็เป็นโมฆะ แต่เฉินเล่อยังเด็ก...จีซองไม่คิดว่าถ้าเขาลงมือทำโดยความโหยหาและหื่นกระหายเด็กคนนี้จะรับไหว

                ขณะที่คนตัวสูงหยุดชะงักและกวาดสายตามองผิวขาวๆที่โผล่พ้นผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก มือเย็นเฉียบของเฉินเล่อสัมผัสโครงหน้าจีซองแผ่วเบา ค่อยเลื่อนขึ้นช้าๆให้แขนทั้งสองข้างคล้องคออีกฝ่าย ปลายเท้าเขย่งขึ้นเล็กน้อยเพื่อพลิกเกมป็นฝ่ายเริ่มจูบก่อน

                จีซองไม่เคยคิดว่าการได้กอด จูบ เฉินเล่อจะทำให้เขาใจเต้นแรงได้ขนาดนี้ จูบของตุ๊กตาในร่างคนดูซุกซน อยากรู้อยากเห็น ไม่ประสีประสา



ยากเหลือเกิน..
การกระทำของเฉินเล่อทำให้เขาห้ามใจได้ยากเหลือเกิน..



                ‘เอ้า! มันเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของอย่างหนึ่งนะเว้ย!’


                คำพูดของแฮชานผุดขึ้นอีกครั้ง..บางทีนะ..บางทีเฉินเล่ออาจจะรู้ ว่านี่คือทางออกเดียวที่จะทำให้เราได้อยู่ด้วยกันเหมือนคนรักทั่วไป ทำให้เฉินเล่อเป็นคนอย่างสมบูณ์ ไม่อย่างนั้นเฉินเล่อจะเริ่มก่อนทำไม..

                คิดได้ดังนั้นจูบแบบเด็กๆถูกทำให้ร้อนแรงขึ้นโดยคนตัวสูง ฝ่ามือร้อนเลื่อนไปกุมมือเล็ก ออกแรงดึงให้เดินมาที่เตียง ก่อนจะดันร่างเล็กให้นั่งลงโดยที่ริมฝีปากยังคงเชื่อมกันไว้

                เด็กชายถูกผลักให้นอนราบลงบนเตียง ปลายจมูกคนรักฝังลงตรงซอกคอขาว ลมหายใจอุ่นร้อนชวนให้รู้สึกปั่นป่วนแปลกๆ ใบหน้าหวานเชิดขึ้นเมื่อปลายจมูกลากมาถึงหน้าอกเปลือยเปล่า จีซองไม่สามารถหยุดได้แล้ว..เด็กคนนี้ทำให้เขาหลงใหลจนโงหัวไม่ขึ้น ทั้งผิวขาวดุจหิมะที่นุ่มนิ่มยิ่งกว่าตอนเป็นตุ๊กตา กลิ่นกายเฉพาะตัว และการสมยอมที่แสดงออกโดยการส่งเสียงครางแผ่วเบา

                “อ๊ะ..”

                ยิ่งได้ยินเสียง ยิ่งอยากทำมากกว่านี้..อยากรู้ว่ามีตรงไหนอีกที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี
                หน้าท้องหดเกร็งเพราะมือร้อนพยายามปลดปมผ้าเช็ดตัวผืนเล็กออกแข่งกับหน้าอกที่เผลอแอ่นขึ้นรับสัมผัสจากลิ้นร้อน เฉินเล่อรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า เปลือกตาปิดแน่น ริมฝีปากเผยออ้าส่งเสียงครางระบายความเสียวซ่านที่ประดังเข้ามาทุกทางจนแทบรับไม่ไหว ทั้งลิ้นร้อนที่ไล้วนรอบอก และสัมผัสจากฝ่ามือตรงซอกขา มือเล็กจิกลงตรงไหล่กว้าง สองขาหนีบเข้าหากันแน่น

                “พ-พี่จีซอง..อึก...”

                เสียงกระเซ่าขาดห้วงเพราะฝ่ามืออุ่นกำรอบแกนกายเล็ก รูดรั้งเชื่องช้า ค่อยเป็นค่อยไป แต่ในมุมของผู้ถูกกะทำแล้ว เฉินเล่ออยากให้จีซองขยับมือเร็วขึ้นอีกนิด เพื่อให้ตนสามารถปลดปล่อยความอึดอัดที่รวมกันอยู่ตรงแกนกายได้เร็วขึ้น...และดูเหมือนว่าจีซองจะรู้ทัน ผู้ชายคนนั้นจึงเร่งจังหวะ โน้มตัวลงไปจูบตามคำเรียกร้องของคนตัวเล็ก เสียงอื้ออึงดังในลำคอ ก่อนของเหลวสีขาวขุ่นจะทะลักเปรอะเปื้อนฝ่ามือ

                จีซองละจากการจูบ มองร่างเล็กที่ตอนนี้แดงไปหมดทั้งตัว เฉินเล่อหลับตาหอบหายใจอย่างหนัก หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบทะลุออกจากอก ยิ่งได้ยินเสียงปลดเข็มขัดและสัมผัสร้อนจากริมฝีปากที่พรมจูบจนถึงท้องน้อย..เหมือนกับว่าหัวใจของเขาจะระเบิดให้ได้

                “เฉินเล่อ..”

                “ฮะ..”

                “พร้อมหรือเปล่า..”

                “...”

                “พร้อม..ที่จะเป็นของพี่ไหม”

                จู่ๆทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ เด็กชายลืมตาขึ้นมองเจ้าของประโยคนั้น แทบไม่เชื่อว่าแววตาของจีซองจะเต็มไปด้วยความเป็นห่วงและจริงจัง...ผู้ชายคนนั้นแคร์ความรู้สึกเขาทั้งที่แกนกายภายใต้ชั้นในขยายตัวเพราะความต้องการที่พุ่งสูง..

                เฉินเล่อเม้มริมฝีปาก ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

                “ก-ก็..ผมเป็นของพี่อยู่แล้วนี่ฮะ”

                “...”

                “ผมเป็นเลอเล่อของพี่จีซองอยู่แล้ว..ไม่ว่าพี่จะทำอะไร เลอเล่อก็พร้อมเสมอฮะ..”

                จีซองก้มลงไปจูบอีกครั้ง..เพื่อแสดงความรัก และเป็นการเบนความสนใจจากปลายนิ้วที่พยายามแทรกเข้าไปในช่องทางสีหวาน เด็กชายสะดุ้งสุดตัว ผวากอดคนรักแน่น เสียงครางถูกกักเก็บไว้ สิ่งเดียวที่พอจะระบายความรู้สึกได้คือการบีบแรงๆที่ไหล่กว้าง เชิดหน้าขึ้นให้รับจูบได้ถนัดมากขึ้นกระทั่งเคลิบเคลิ้มไปกับมัน ทำให้การเบิกทางง่ายกว่าเดิม

                “อื้อ..”

                ร่างสูงถอนนิ้วพร้อมกับผละออกมา ดวงตาฉ่ำเยิ้มของเฉินเล่อปรือขึ้นมองคนรัก แต่ไม่นานก็ต้องปิดลงดังเดิมเพราะจีซองจงใจถูกแกนกายกับช่องทางของเขา ก่อนจะแทรกมันเข้ามาข้างใน

                “อ๊ะ..พ-พี่จีซอง..เลอเล่อเจ็บ..”

                “หายใจเข้าลึกๆ แล้วก็อ้าขาออกอีกหน่อย”

                เด็กชายทำตามเสียงกระซิบอย่างว่าง่าย จีซองจับมือเล็กคล้องคอ ปลายจมูกคลอเคลียกับแก้มใส

                “เจ็บมากหรือเปล่า”

                “ฮะ..”

                “ให้พี่หยุดไหม?”

                เด็กน้อยกัดริมฝีปากชั่งใจก่อนช้อนตาขึ้นมองและส่ายหน้าช้าๆ จีซองหลุกยิ้ม ก้มลงจูบอีกครั้งแล้วกระซิบแผ่วเบา

                “งั้นถ้าเจ็บก็ให้จับไหล่พี่ไว้..”

                “...”

                “หรือถ้าไม่ไหวจริงๆจะดึงไปจูบก็ได้นะ”

                รอยยิ้มมุมปากเพิ่มให้เซ็กซ์ของเด็กวัยรุ่นร้อนแรงขึ้น เฉินเล่อปิดเปลือกตาอีกครั้งตอนที่ผู้ชายคนนั้นกระแทกแกนกายเข้ามา และเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ เสียงครางดังลั่นในห้องแคบ สุดท้ายแขนเล็กๆก็ต้องรั้งใบหน้าคนรักเขามาใกล้เพื่อจูบกลั้นเสียงและระบายความรู้สึกที่มีทั้งเสียวซ่านและเจ็บปวด

                สะโพกลอยเหนือพื้น เฉินเล่อใช้สองเกี่ยวเข้ากับเอวสอบ ผละริมฝีปากส่งเสียงคราวเมื่อความเจ็บปวดค่อยๆเลือนหายและหลงเหลือไว้เพียงความเสียวที่ทะยานขึ้นเรื่อยๆ

                ไม่นานของเหลวอุ่นฉีดพ่นเข้าสู่ช่องทางและทะลักเลอะซอกขา ก่อนจีซองจะถอนแกนกายออกแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างๆ สองแขนรั้งร่างเล็กให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด เสียงหอบหายใจยังคงได้ยินชัดเจน เขาจุมพิตที่หน้าผากตุ๊กตาแมวในร่างคนที่หวงแหน...เขาทำมันลงไปแล้ว แสดงความเป็นเจ้าของแล้ว และได้แต่หวังว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนอย่างสมบูรณ์


                เด็กชายซุกตัวเข้าหาความอบอุ่น จากที่หอบหนักกลายเป็นหายใจเข้าออกสม่ำเสมอเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าเฉินเล่อหลับไปแล้ว จีซองดึงผ้าห่มคลุมกายและเอาแต่จ้องมองใบหน้าอีกฝ่าย กระทั่งจมเข้าสู่ห้องนิทราไปอีกคน..



กลับไปอ่านที่บทความ >> https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1580530&chapter=18

วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2560

#ฟิคคุณอาแจมิน Epoch 4 : Next Room [NoMin]








                สิ้นประโยคเชิญชวนร่างเล็กถูกท่อนแขนแกร่งช้อนตัวขึ้น พาไปยังห้องนอนซึ่งอยู่ถัดไปจากห้องของหลานชาย บรรจงวางร่างบอบบางลงบนเตียง มือใหญ่กอบกุมใบหน้าหวานให้เงขึ้นรับจูบจ้วงอีกครั้งแล้วอีกครั้ง

                อาจเป็นเพราะพักหลังมานี้เราห่างหายจากเรื่องอย่างว่าไปนาน หรือไม่ก็เพราะเขาไม่ชินสักทีถึงได้ใจเต้นแรงและร่างกายตอบสนองดีเป็นพิเศษแบบนี้ เปลือกตาปิดสนิทแน่นยามที่ปลายจมูกคนรักไล้จากพวงแก้มไปยังลำคอ แล้วค่อยกดจูบเบาๆสูดกลิ่นกายเฉพาะตัวที่หลงใหล

                ไม่อยากจะเชื่อว่าอายุของอีเจโน่เข้าเลข 4 แล้ว ผู้ชายคนนั้นดูชำนาญเรื่องนี้เป็นอย่างดี รู้ว่าต้องปลุกเร้าอย่างไร จับตรงไหนเขาจึงจะรู้สึกดี อย่างตอนนี้ที่มือใหญ่เลื่อนไปบีบสะโพก ก้มลงใช้ริมฝีปากคาบชายเสื้อสีหวานให้เลิกขึ้น ส่งต่อชายเสื้อให้ริมฝีปากบางคาบต่อ แล้วจึงถอดเสื้อของตนเองต่อ

                มัดกล้ามเนื้อตรงต้นแขนและหน้าท้องทำให้แจมินนึกสงสัยว่าผู้ชายคนนี้เอาเวลาไหนไปออกกำลังกาย ในเมื่อทุกครั้งที่เขากลับจำกองถ่ายก็มักจะเห็นอีกคนหมกมุ่นอยู่กับการทำเพลงในห้องแท้ๆ แจมินวางมือลงบนลอนกล้ามเนื้อตรงหน้าท้อง ลูบเบาๆก่อนจะช้อนตาขึ้นมอง กัดริมฝีปากยั่วยวน ก่อนจะเป็นฝ่ายพลิกให้คนอายุมากกว่าลงไปนอนบนเตียง

                เจโน่ยิ้มเมื่อสบสายตาคนรัก คนตัวเล็กทิ้งสะโพกลงตรงกลางลำตัว ทาบมือพร้อมกับซบหน้าลงตรงอกกว้าง ฟังเสียงหัวใจเต้นรัวของอีกฝ่าย พลันยกยิ้มมุมปาก ประทับจูบลงแผ่วเบา ไล่จากหน้าอกและจบตรงท้องน้อย

                “อา..”

                เสียงทุ้มครางต่ำ ก่อนขบกรามแน่น มือเล็กดึงกางเกงลงเชื่องช้า พลางส่งสายตาขี้เล่นไปให้ โจเน่ปล่อยให้คนตัวเล็กสัมผัสแกนกายของเขา เปลือกตาปิดลงรับสัมผัสจากลิ้นเล็กค่อยโลมเลียแกนกาย

                “ซี๊ดด..”

                สัมผัสเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่ว มือใหญ่บีบตรงไหล่เล็กแล้วจึงรั้งให้อีกคนเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน เจโน่จ้องมองใบหน้าหวาน โน้มตัวเข้าไปจูบที่ริมฝีปาก สอดลิ้นร้อนกวาดต้อนความหวาด สัมผัสตอบรับที่ดูมีประสบการณ์ทว่ายังห่างชั้นกับเขามากยิ่งทำให้อยากสัมผัสมากขึ้น

                จูบนั้นเป็นสัญญาณให้รู้ว่าเจโน่ต้องการเป็นฝ่ายคุมเกมแล้ว เขาซุกหน้าลงกับลำคอระหงอีกครั้ง ดูดดึงขบเม้มแรงๆจนเกิดรอยแดง แจมินสะดุ้งเล็กน้อย มือเล็กบีบเข้าที่ต้นแขน ผ่อนลมหายใจอย่างยากลำบาเมื่อริมฝีปากเลื่อนลงมาหยุดที่ยอดอกสีหวาน

                “อะ..อา..”

                เชิดใบหน้าขึ้นครางเสียงกระเส่า ปลายลิ้นร้อนไล้วนซ้ำๆ พลางส่งมือสอดเข้าใต้กางเกงขาสั้นสีเข้ม สัมผัสกับแกนกายเล็ก ขยับเชื่องช้า ทว่ากลับทำให้ร่างทั้งร่างบิดเร้า แจมินจิกเล็บลงบนต้นแขน งอตัวให้ศีรษะซบลงกับไหล่กว้าง สองขาสั่นเทาอ้าออกกว้างให้อีกคนสามารถมอบความสุขได้ถนัดกว่าเดิม

                “อ๊ะ..ฮ่ะ..พ-พี่เจโน่”

                “เรียกอีกสิครับ..เรียกชื่อพี่อีก”

                “อื้อ! เร็ว...เร็วกว่านี้อีกได้ไหมครับ”

                เจโน่ยอมทำตามอย่างว่าง่าย เขาก้มหน้าลงให้สามารถลอบมองใบหน้าหวานที่กำลังอยู่ในห้วงของกามรมณ์ได้ คนตัวเล็กที่ดูจะรู้ทันเอียงใบหน้าสบตาคนรัก ริมฝีปากเผยยิ้มบาง ก่อนสองแขนจะยกขึ้นโอบล้อมลำคอแกร่งแล้วจึงมอบจูบให้แทนการพูดออกไปว่ารู้สึกดีแค่ไหนที่ได้มีเซ็กซ์กับคนที่รัก

                ภาพหลานชายและความกังวลใจทุกอย่างหมดไปเมื่อธารอุ่นสีขาวขุ่นพุ่งเปรอะฝ่ามือใหญ่ แจมินผละออกมาหอบตัวโยน ยังไม่ทันได้ตั้งใจก็ถูกดึงเข้าไปจูบอีกครั้ง กายบางถูกผลักให้ล้มลงนอนลนเตียง มือใหญ่ดึงกางเกงขาสั้นพร้อมกับชั้นในออกไปให้พ้นทาง จับสองขาแยกให้กว้างกว่าเดิม

                เจโน่วางมือลงบนเข่าของแจมิน โน้มใบหน้าลงดูดเม้มขาขาว เฉียดแกนกายเล็กไปมาจนคนถูกกระทำเอื้อมมือสอดเข้ากลุ่มผมนุ่ม จิกทึ้งระบายความเสียวซ่าน ลิ้นร้อนหยอกล้อกับช่องทางด้านหลังจนแฉะไปหมด

                “อื้อ! พี่เจโน่ครับ..อึก..ผม..ผมไม่ไหวแล้ว”

                คนตัวสูงผละออกมาทันที เขาก้มลงจูบริมฝีปากบาง มือใหญ่จับแกนกายจ่อช่องทางสีหวาน อาศัยจังหวะที่ร่างเล็กเคล้มกับรสจูบแทรกแกนกายเข้าไปช้าๆ มือเล็กจิกเข้าที่ไหล่กว้าง ส่งเสียงในลำคอเมื่อความปวดร้าวระคนเสียวซ่านแทรกผ่านเข้ามา

                “อื้ออออ!!

                เจโน่แช่แกนกายไว้ครู่หนึ่งเพื่อให้อีกคนได้ปรับตัว พอเห็นว่าแรงจิกคลายลง เป็นสัญญาณให้รู้ว่าพร้อมแล้วจึงค่อยขยับแกนกายเนิบนาบ ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นตามความต้องการที่พุ่งสูง

                “อ๊ะ..อ่ะ...อ๊า..พ-พี่..”

                “อืมมม..แจมิน..”

                เสียงทุ้มแหบพร่าข้างหูยิ่งทำให้การควบคุมสติลดน้อยลง แจมินเชิดหน้าขึ้นส่งเสียงครางลั่นห้องแคบ มือเล็กยังคงจิกเล็บลงตรงไหล่กว้าง ริมฝีปากเผยออ้าส่งเสียงสลับกับผ่อนลมหายใจ

                ร่างเล็กเผลอตัวยกสะโพกขึ้นรับแรกกระแทกที่รุนแรงขึ้น ความเจ็บปวดไม่เหลือแล้ว ทุกอย่างแทนที่ด้วยความเสียวซ่าน เจโน่ขบเม้มยอดอกสีหวานอีกครั้ง มือข้างหนึ่งดึงมือของแจมินมากุมไว้ แผ่นหลังทางไถไปกับเตียงนุ่มตามจังหวะที่อีกคนควบคุม

                แจมินจิกเล็กแน่นขึ้น เปลือกตาปิดแน่น สมองขาวโพลนเมื่อใกล้ถึงจุดสูงสุดเต็มที่ ปุยนุ่นสีขาวรอเขาอยู่ตรงหน้า ร่างเล็กกระตุกเกร็งรัดแกนกายที่ปลดปล่อยความอุ่นร้อนเข้ามาจนทะลักเปรอะง่ามขา

                “อ๊ะ! อ๊า!!..”

                “จ-แจมิน..อา..”

                ทิ้งสะโพกลงกับเตียง ร่างของเจโน่ทาบทับตามลงมา นักแต่งเพลงบรรเลงบทรักเสร็จแล้ว มือใหญ่ลูบไล้ใบหน้าหวาน ที่ยังคงปิดเปลือกตาอยู่ แผ่นอกบางกระเพื่อมขึ้นลงเพราะหายใจไม่ทัน ริมฝีปากเผยอเล็กน้อย เจโน่จูบเบาๆที่หน้าผากมน แล้วจบที่ริมฝีปากทั้งที่อีกคนยังคงหลับตาอยู่



กลับไปอ่านที่บทความ >> https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1563879&chapter=5

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2560

[Specia HNY] After Party #MarkMin









Title : After Party
Author : SANGCHU
Paring : Mark x Jaemin



                แจมินตื่นมาทำความสะอาดบ้านสำหรับใช้จัดปาร์ตี้ส่งท้ายปีตั้งแต่เช้า ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ หรือแม้แต่ห้องนอน และที่ต้องเตรียมการยิ่งใหญ่อลังการขนาดนี้ก็เพราะเมื่อถึงวันสุดท้ายของปี พี่ชายของเขาจะขนเพื่อนมาเคาท์ดาวน์ที่บ้าน ดื่มกินกันตามประสาคนบรรลุนิติภาวะแล้ว ก่อนจะยกห้องนอนส่วนตัวของเขาให้บรรดาเพื่อนที่เมาเละได้ซุกหัวนอน


                หลายครั้งที่แจมินอยากร่วมวงด้วย แต่พี่ชายอย่างแจฮยอนก็มักจะกันเขาออกเสมอ พร้อมกับให้เหตุผลว่าเด็กม.ปลายอย่างเขายังไม่บรรลุนิติภาวะ ดื่มกินแบบผู้ใหญ่ไม่ได้ พอต่อรองเป็นน้ำอัดลม พี่ชายก็บอกว่าอีกว่าไม่มีของแบบนั้นในงานสังสรรค์แบบผู้ใหญ่ สุดท้ายแจมินก็ต้องยอมแพ้แล้วนอนฟังเสียงโห่ร้องในห้องนอนของพี่ชาย



ครั้งนี้ก็เช่นกัน..



                “พี่แจฮยอน ขอผมร่วมวงด้วยไม่ได้เหรอ ไม่กินอะไรก็ได้อ่ะ แค่นั่งเฉยๆ นะนะนะนะ”


                “ไม่ได้”


                “งั้นไม่ร่วมวงแต่นั่งนอกห้องนะ”


                “ไม่ได้อีกนั่นแหละ กลับเข้าห้องไปเลยไป”


                “พี่แจฮยอนใจร้าย!


                แจมินเบ้ริมฝีปาก เดินปึงปังเข้าไปในห้องของพี่ชาย ทิ้งตัวลงนอนคว่ำบนเตียง ปล่อยให้ความรู้สึกแย่เกาะกุมหัวใจ เขาก็แค่อยากเล่นสนุกในวันส่งท้ายปีบ้างแต่ดูเหมือนว่าผู้ชายที่ไม่มีเหตุผลอย่างแจฮยอนไม่ได้เห็นใจเขาเลย



น้อยใจ..นาแจมินน้อยใจ



                คนตัวเล็กนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง..
                เป็นภาวะเคลิ้มที่ตื่นไม่ได้และหลับไม่ลง เสียงแหกปากร้องเพลงจากภายนอกและการนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่นั่นทำให้แจมินหงุดหงิด เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว ลุกขึ้นเดินไปแง้มบานประตูห้องนอนเล็กน้อย มองผ่านช่องแคบเพื่อดูความเป็นไปของงานเลี้ยงงี่เง่า


                พี่ฮันซล พี่แทยง พี่ยองโฮ และ พี่มาร์ค..ทุกคนมากันครบเลย แจมินไล่สายตามองเพื่อนพี่ชายที่จู่ๆก็พร้อมใจกันลดเสียงพูดคุยให้เบาลงจนกลายเป็นเสียงกระซิบ พนันได้เลยว่าคนเหล่านั้นกำลังขุดเรื่องส่วนตัวมาคุย และมันออกจะเสียมารยาทไปสักหน่อยถ้าแจมินจะขยับบานประตูให้กว้างกว่าเดิมเพื่อฟังได้ถนัดขึ้น แต่มือเล็กก็ผลักบานประตูไปแล้ว ตอนนั้นเองที่สายตาของเขาเผลอสบตากับเพื่อนพี่ชายคนหนึ่งซึ่งบังเอิญมองมาทางนี้พอดี นัยน์ตาอ่อนโยนและลุกวาวราวกับการได้สบตากันเพียงเสี้ยววินาทีเป็นสิ่งที่คนอายุมากกว่ารอคอย



พี่มาร์ค..



                เด็กหนุ่มปิดประตูทันที แผ่นหลังบางแนบไปกับบานประตูเย็นเฉียบ ยกมือขึ้นทาบหน้าอกเบาๆ คนตัวเล็กได้ยินเสียงหัวใจเต้นโครมครามดังลั่นและร่างกายสั่นเล็กน้อย คล้ายคนถูกจับผิด แต่เท่าที่รู้ สายตาของมาร์คไม่ได้ต้องการสื่อแบบนั้น

                แจมินนั่งลงที่เตียงอีกครั้ง ครุ่นคิดถึงสาเหตุที่พี่ชายไม่ยอมให้เขาออกไปร่วมวงด้วย ไม่แน่ว่าบางทีอาจเป็นเพราะกลุ่มเพื่อนที่พี่แจฮยอนคบด้วยเป็นพวกเสื้อผู้หญิงที่พร้อมจะหว่านเสน่ห์ใส่เหยื่อทุกตัวที่บังเอิญโผล่หน้ามาอยู่ในสายตา และแจมินก็รู้สึกแบบนั้น ด้อยกว่า ได้รับความรัก และรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหยื่อของมาร์คลีไปแล้ว

                เวลาผ่านไปกระทั่งใกล้รุ่งสาง เด็กหนุ่มร่างเล็กยังคงนอนคุดคู้อยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา เสียงกุกกักที่บานประตูไม่ได้ทำให้คนเหนื่อยล้าสะดุ้งตื่นได้เท่าความหนาวที่แทรกเข้ามาเพราะผ้าห่มถูกดึงออก พร้อมกับสัมผัสกอดรัดและวาบหวามตรงท้ายทอย


                “พี่แจฮยอนฮะ...เลิกแล้วเหรอ?”


                น้ำเสียงงัวเงียเอ่ยถามคนเป็นพี่ ซึ่งสิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงความว่างเปล่า ผิดกับสัมผัสวาบหวามที่เริ่มลุกลามไปถึงแผ่นหลังบางและสะโพกมน พี่แจฮยอนไม่มีวันทำแบบนี้แน่!!’ เปลือกตาสีนวลเปิดขึ้นทันที พลิกตัวจ้องมองผู้บุกรุกในความมืด มือใหญ่เย็นเฉียบปิดริมฝีปากของเขาไว้แน่น พร้อมกับเคลื่อนใบหน้าหล่อเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่ข้างแก้ม


                “ชู่ว..อย่าเสียงดังสิ”


                แจมินทำได้แค่เบิกตากว้าง ส่งเสียงขัดขืนในลำคอ มือเล็กพยายามผลักร่างตรงหน้า แม้จะมองเห็นไม่ชัด แต่น้ำเสียงทุ้มข้างหูทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายคือคนที่เขาเผลอสบตาก่อนหน้านี้ ขอบตากลมโตร้อนผ่าว หวาดกลัวดวงตาฉ่ำเยิ้มคู่นั้น และรังเกียจกลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งตัว


                “แจฮยอนบอกพี่ว่าเราไปค้างบ้านเพื่อน..พี่คิดว่าเราจะไม่ได้เจอกันแล้ว จนเห็นเราแง้มประตูออกมานั่นแหละ”


                คนอายุมากกว่าพูดพลางคลายมือออกจากริมฝีปากบางเพื่อใช้มันประคองแก้มเนียน แจมินเลิกส่งเสียงประท้วงแล้ว ทว่าร่างเล็กยังคงสั่น สายตาหลุบลงต่ำ ก่อนจะถูกช้อนให้สบตาเพื่อนพี่ชาย ทุกอย่างหยุดนิ่ง แจมินไม่ได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศหรือแม้แต่เสียงลมหายใจของตนเอง ทุกอย่างถูกสีดำขลับในแววตาของคนตรงหน้ากลืนหายไปจนหมด เด็กหนุ่มวางมือลงบนอกกว้างคล้ายจะผลักอีกฝ่ายออก ทว่าไม่ได้ส่งแรงไปแต่อย่างใด


                “พี่ชอบเรานะ..”


                คิดว่าต้องมีเหตุผลมากแค่ไหนนาแจมินถึงต้องขอร้องพี่ชายให้ได้นั่งร่วมวงปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่าในทุกๆครั้ง คิดว่าแค่อยากออกมาเคาท์ดาวน์อย่างเดียวเหรอ..ผิดแล้ว..นาแจมินยังมีอีกเหตุผลที่ไม่เคยบอกใครมาก่อน เหตุผลที่ว่าคือเขาอยากเจอเพื่อนพี่ชาย อยากใช้เวลาส่งท้ายปีไปพร้อมกับมาร์คลี..คนที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้


                “ผ-ผม..ผมก็ชอบพี่ฮะ”


                มาร์คเผยยิ้มพึงพอใจ ก่อนโน้มตัวมอบจูบที่ริมฝีปากบางของน้องชายเพื่อนแผ่วเบาโดยไม่ได้ลุกล้ำมากไปกว่านั้น มือใหญ่จัดให้แขนเล็กยกขึ้นคล้องรอบคอของตน และจึงผละออกมามองใบหน้าน่ารักซึ่งตอนนี้หลับตาแน่น ริมฝีปากเผยอออกเล็กน้อยเพื่อผ่อนลมหายใจได้สะดวกขึ้น

                แจมินหลับตาลงเมื่อสัมผัสรุ่นจากมือใหญ่สอดเข้าใต้เสื้อยืดตัวโคร่ง ลูบไล้แผ่นหลังเนียนอย่างหลงใหล เขาก็เด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง แม้ว่าพี่ชายจะพยายามเลี้ยงเขาให้อยู่ในกรอบ แต่ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เขาแอบแหกกฎเหล่านั้นอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนีเรียน แอบดูคลิปโป๊ หรือแม้แต่ตอนนี้...ทั้งที่ควรสงวนท่าทีแต่นาแจมินก็ปล่อยให้มาร์คลีวุ่นวายกับร่างกายของเขาได้ตามใจชอบ โดยไม่คิดขัดขืนเหมือนก่อนหน้านี้

                แต่มันจะถึงขั้นไหนกัน? แล้วความสัมพันธ์ของเราล่ะ แจมินไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลังจากคืนนี้พี่มาร์คจะรับผิดชอบอะไรหรือเปล่า จะพยายามจีบเขาไหม คบกัน หรือปล่อยผ่านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โทษว่าทุกอย่างเป็นเพราะเมา หรือโทษพี่แจฮยอนที่ชวนเจ้าตัวมาที่บ้าน


                “อื้อ! พี่มาร์ค”


                เสียงหวานครางผะแผ่วเมื่อคนตัวสูงซุกหน้าลงกับซอกคอขาว ขบเม้มสลับกับเลื่อนมือลงต่ำ หยุดอยู่ที่ขอบกางเกงก่อนสอดมือเข้าไปด้านใน

                มือเล็กโอบรอคอเปลี่ยนเป็นวางลงบนไหล่ ใช้กรงเล็บจิกลงระบายความเสียวซ่านที่ชวนให้ปั่นป่วนไปทั้งท้อง ฟันคมขบริมฝีปากตนเอง ใจจริงอยากร่ำร้องเรียกชื่อชายหนุ่มที่กำลังปรนเปรอร่างกายเหลือเกิน อยากแสดงออกมากกว่านี้ แต่ลึกๆแล้วนาแจมินรู้ว่ามันไม่สมควร และกลัวว่าพี่แจฮยอนจะรู้เข้าว่าน้องชายกับเพื่อนกำลังทำกิจกรรมลามกกันอยู่

                มาร์คกดจูบริมฝีปากบางอีกครั้ง และเพื่อเบนความสนใจจึงจงใจขบเม้มให้ริมฝีปากเผยอรับลิ้นร้อนของตน เกี่ยวกระหวัดหยอกล้อ แล้วใช้จังหวะที่ร่างเล็กเคลิ้มส่งมือกอบกุมแกนกายขยับขึ้นลงเชื่องช้า

                ขาเล็กเผลหุบเข้าหากันแน่น แจมินเป็นฝายผละออกหอบหายใจ ดวงตาปิดแน่น มือเล็กจิกเกร็งและเสียงครา
หวานดังขึ้นข้างหู มาร์คนึกขอบคุณไหวพริบของตนเองที่สามารถพาเขาเข้ามาในห้องของแจฮยอน และได้เห็นน้องชายของเพื่อนที่เขาแอบมองมาตลอดแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความต้องการอย่างตอนนี้..

                เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมแจฮยอนจึงโกหกว่าแจมินไม่อยู่บ้าน เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงได้หวงน้องชายนักหนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขาเมาจนขาดสติ เพราะแจมินดูไม่เหมือนเด็กน้อยที่เขาเคยเห็น ท่าทางเด็กพูดน้อย อยู่ในโอวาทของคนเป็นพี่ตลอดเวลาที่เราได้เจอกันผิดกับตอนนี้ลิบลับ แจฮยอนคงกลัวว่าคนที่ในหัวมีแต่เรื่องลามกอย่างเขาจะทำอะไรเกินเลยแจมินแล้วไม่รับผิดชอบสินะ..


                “อึก..พี่มาร์ค..อ๊ะ..พี่มาร์คฮะ”


                “ว่าไงครับ”


                “ช่วย..ขยับ..อึก เร็วกว่านี้..อ๊ะ..อีกหน่อยได้ไหมฮะ”


                ร่างสูงทำตามความต้องการของน้องชายเพื่อนทันที มาร์คขยับข้อมือเร็วขึ้นเช่นเดียวกับเสียงครางที่ดังจนเกรงว่าจะปลุกแจฮยอนที่หลับคาห้องนั่งเล่นเพราะดื่มหนักเข้า ริมฝีปากป้อนจูบอีกครั้งเพื่อปิดกั้นเสียงครางของเด็กหนุ่ม เร่งจังหวะเร็วขึ้นก่อนธารอุ่นจะพุ่งเลอะล้นฝ่ามือ

                เด็กหนุ่มหอบหายใจแรง แขนที่จิกเกร็งบนไหล่ทิ้งลงบนเตียง ดวงตาฉ่ำเยิ้มปรือมองเพื่อนพี่ชาย นี่ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม..และยังไม่ทันหาคำตอบให้กับตัวเองได้ ร่างเล็กถูกรั้งตัวเข้าไปในอ้อมกอดของคนอายุมากกว่า ใบหน้าแนบกับอกกว้าง ฟังเสียงหัวใจเต้นรัวของอีกฝ่าย...ไม่ต่างจากเขาเลยสักนิด


                “ไม่ได้ฝันไปจริงๆด้วย”


                “แล้วพี่ก็ไม่ได้เมาด้วย”


                “คนเมาชอบพูดว่าตัวเองไม่เมา”


                “ถ้าพี่เมา..พูดเลยว่าพี่จะไม่หยุดแค่มือ”


                ร่างเล็กขยับกายเข้าใกล้ร่างสูงมากกว่าเดิม เก็บซ่อนอาการขลาดเขินไว้


                “แจมิน..ปีใหม่ปีนี้ขอพรหรือยัง”


                เด็กหนุ่มพยักหน้า “ผมขอให้เทศกาลปีใหม่ได้อยู่กับพี่..แล้วพี่มาร์คขอพรหรือยังฮะ”


                “พี่กำลังจะขอนี่ไง”


                แจมินผละออกมาสบตาเพื่อนพี่ชาย มาร์คมองเขาแล้วหลุดยิ้ม ก้มลงจูบเบาๆที่ริมฝีปากบางทันที


                “พี่ขอให้แจมินยอมเป็นแฟนพี่..ได้หรือเปล่า”


                ร่างเล็กหน้าแดงไปหมดแล้วเช่นเดียวกับหัวใจที่เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง แจมินหลุบตาลงราวกับชั่งใจ ก่อนจะพยักหน้ารับพร้อมกับมาร์คลีที่ยิ้มกว้าง...


                “พี่จะดูแลเราอย่างดีเลย”


                “เรื่องดูแลผมไม่เท่าไหร่หรอกฮะ..แต่เรื่องของพี่แจฮยอนน่ะ..”



ปัง! ปัง! ปัง!!



                “ไอ้เชี่ยมาร์คคคคคค!! มึงออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะโว้ยยย นั่นมันห้องกู มึงต้องไปนอนห้องแจมินโน่น ออกมาเดี๋ยวนี้!!


                “นี่แหละห้องแจมิน”


                “ห้องกูโว้ย”


                มาร์คตัดสินใจลุกขึ้นเปิดประตูให้แจฮยอน ภาพเพื่อนสนิทโกรธจนหน้าแดง จ้องเขม็งไม่ได้ทำให้มาร์คกลัวเลยสักนิด


                “อ่ะ..มึงดูนะ แจมินนอนอยู่บนเตียงมึง นี่ก็ต้องห้องแจมินดิวะ”


                “ก็..กูให้แจมินมานอนห้องกู”


                “แล้วไหนบอกน้องมึงไปนอนบ้านเพื่อน”


                “ยังจะมาถามอีก คิดว่ากูไม่รู้เลยดิว่ามึงชอบแจมิน กูก็กลัวว่ามึงจะเคลมน้องกูไง ยิ่งคนทะลึ่งอย่างมึงพอเหล้าเข้าปากก็พร้อมจะเคลมทุกคนที่เดินผ่าน ถ้าคนนั้นเป็นน้องกูล่ะ”


                “มึงเห็นกูเป็นคนยังไงวะ”


                “งั้นตอบมาว่าเมื่อกี้ที่เนียนนอนห้องกูทำอะไรแจมินหรือเปล่า”


                มาร์คลีส่ายหน้า


                “ไม่ได้ทำ?”


                “ไม่ใช่แค่กอด มีจูบ แต่ไม่ได้ใส่”


                “ไอ้เชี่ยมาร์คคคคคค!! ไอ้ลามก ไอ้เพื่อนชั่ว!! @#!^&*)&$%&



End
นี่คือของขวัญปีใหม่ของชั้น..
ชั้นมันใจปลาซิว ชั้นไม่กล้าเขียนอัศจรรย์เต็มๆ
ชั้นทำได้แค่ลามกเล็กๆน้อยๆเท่านั้นนน

แต่ชั้นเขียนด้วยใจนะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะ ขอบคุณฟลว.ด้วย ขอให้ 2017 เป็นปีที่ดีของทุกคน และขอให้แขนของเธอมกำลังมากพอที่จะพายเรือมาร์คมินสืบต่อไป..ด้วยรักและปลาทู