จูบของเราไม่เคยลึกซึ้งขนาดนี้มาก่อน
แจฮยอนยังคงดูดดึงและขบเม้มริมฝีปากของเขาอยู่อย่างนั้น
แขนทั้งสองข้างที่โอบรอบคำอ่อนแรง
เตนล์รู้สึกเหมือนตนเองเป็นช็อกโกแลตในถ้วยที่ถูกวางไว้
และแจฮยอนเป็นความร้อนที่ค่อยหลอมละลายเขาช้าๆ
สัมผัสเย็นเฉียบจากฝ่ามือสอดใต้เสื้อยืดสีหวาน
พร้อมๆกับที่แจฮยอนดันร่างเล็กนอนราบไปบนฟูก ริมฝีปากของรายังคงมอบจูบให้กัน
ก่อนจะผละออกมาสบตาเพียงวินาทีสั้นๆ ดวงตาหวานฉ่ำของเตนล์ปรือมองเขา ความปรารถนาจากตัวเขาสะท้อนเป็นเงาอยู่นัยน์ตา
และเมื่อปิดเปลือกตาอีกครั้ง จมดิ่งอยู่ในความมืด ยิ่งทำให้ร่างกายของเขาไวต่อความรู้สึกวาบหวามที่เกิดขึ้นจากการที่ริมฝีปากขบเม้มตามลำคอ
ไล่มาถึงไหปลาร้า ก่อนที่แจฮยอนจะถอดสียืดอีกฝ่ายออก แล้วครอบครองยอดอก
สีหวาน
เตนล์ไม่รู้ว่าควรจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไร
ความรู้สึกที่มีทั้งความกลัว อยากรู้ อยากลอง
และอยากให้อีกฝ่ายสัมผัสเขามากกว่านั้น สมองของเขาขาวโพลนเกินกว่าจะคิดอะไรได้ในตอนนี้
มือถูกทิ้งไว้ข้างลำตัวกำผ้าห่มที่เคยคลุมตอนดูภาพยนตร์ด้วยกันไว้แน่นจนเกิดรอยยับเด่นชัด
ระหว่างที่แจฮยอนไล่พรมจูบต้นแขน
ไล่มาจนถึงหน้าท้องแบนราบที่หดเกร็งเพราะไม่คุ้นชินกับสัมผัสเสียวซ่านที่ชวนให้หัวใจทำงานหนัก
“อ๊ะ...อา”
น่าอาย...มันน่าอายเกินไป
เตนล์คิดว่าตนควรยกมือขึ้นปิดริมฝีปากไว้ไม่ให้ส่งเสียง แต่ถึงอย่างนั้น
ลิ้นร้อนไล้วนใกล้สะดือทำให้เขาไม่สามารถดึงมือออกจากผ้าห่มได้ ยิ่งคนรักเลื่อนลงไปเท่าไหร่
ความเสียวซ่านก็ยิ่งทวีคูณ และมันก็มากพอที่จะทำให้เขาส่งเสียงครางดังขึ้นเรื่อยๆ
“จ-แจฮยอน...อึก...อ๊ะ...”
ผู้ชายคนนั้นหยุดชะงัก
เสียงกระเส่าที่ได้ยินไม่ได้มีเพียงความสุขสม แต่ยังแฝงความกลัวไว้ในนั้น
และเพราะเขารู้สึกได้จึงยืดตัวขึ้นจูบริมฝีปากเตนล์อีกครั้ง
ดึงมือเล็กมาประสานกันไว้
“ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวนะ”
ร่างเล็กพยักหน้า
แม้จะกลัว แม้จะรู้ว่าหลังจากนี้จะมีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายตามมามากมาย
แต่ตอนนี้ เขาไม่อยากจบทุกอย่างลงเพียงเท่า
รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า
โดยเฉพาะตอนที่แจฮยอนค่อยดึงกางเกงขายาวของเขาร่นไปถึงเข่า ตามด้วยชั้นในสีขาว
เตนล์เบือนหน้าหนีลอบซ่อนใบหน้าแดงซ่านของตน ร่างโปร่งโน้มตัวลงกดจูบที่ต้นขา
ไล่มายังซอกขาและไม่ลืมที่จะกดจูบบนแกนกายเล็กแผ่วเบา
เพียงเท่านั้นก็ทำให้ร่างเล็กบิดเกร็งไปทั้งตัว
แจฮยอนใช้มือรูดรั้งแกนกายช้าๆ
ภาพที่เห็นตรงหน้าคือใบหน้าสุขสมของคนรัก ดวงตาเรียวฉ่ำเยิ้มปรือมองเล็กน้อย
ฟันขบกัดริมฝีปากตัวเองราวกับการกระทำนั้นจะสามารถระบายความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นได้
ไม่มีเสียงครางแหลมหูแบบที่เคยดูในหนังผู้ใหญ่ ไม่มีท่าทางอ้อนออด ยั่วเย้า
หรือแม้แต่การปล่อยตัวปล่อยใจมากพอที่จะตอบสนองด้วยการกระทำแบบเดียวกันกับเขา
แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเตนล์
“อ๊ะ..ฮ่ะ..อ๊ะ”
การเก็บอารมณ์ไว้และให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไปเป็นเรื่องยากหากยึดเอาสัญชาตญาณของผู้ชายเป็นหลัก
แต่ถึงอย่างนั้นแจฮยอนก็ไม่กล้าพอที่จะทำรุนแรงกับคนรัก
เราทั้งคู่ยังใหม่มากกับเรื่องนี้ จึงทำได้เพียงขยับข้อมือให้เร็วขึ้น
เพิ่มให้เตนล์ปลดปล่อยได้เร็วขึ้น และพร้อมสำหรับการร่วมรักของเรา
“อึก..อ๊า..แจ..แจฮยอน
เราอึดอัด”
“อยากให้เร็วกว่านี้หรือเปล่า”
ไม่มีคำตอบที่เป็นคำพูด
คนตัวเล็กคิดว่าแค่พยักหน้าตอบรับก็กระดากอายมากพอแล้ว เขาเผลอตัวปล่อยให้มือเลื่อนลงไปสัมผัสกับข้อมือร่างโปร่ง
ริมฝีปากเผยอขึ้น พ่นลมหายใจที่ควบคุมยากขึ้นทุกที
แจฮยอนรูดรั้งแกนกายอีกสองถึงสามครั้ง หยาดน้ำสีขาวขุ่นถูกปลดปล่อยจนเลอะไปทั้งมือ
เตนล์นอนหอบหายใจแรงหลังจากได้ปลดปล่อยไปบ้างแล้ว
เขาไม่ใช่พวกเด็กเนิร์ดที่เรียนหนักจนไม่รู้จักการช่วยตัวเอง
แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ต้องทำเรื่องแบบนั้นทุกวัน ทุกสัปดาห์
และเพราะแบบนั้นจึงทำให้เขารู้สึกโล่งใจ พึงพอใจกับการได้ปลดปล่อยในครั้งนี้
แจฮยอนโถมตัวเข้ามอบจูบให้เขา
ตอนนั้นเองที่เตนล์ได้ยินเสียงจากโน้ตบุคซึ่งยังคงถูกตั้งไว้ในตำแหน่งเดิม
แม้จะไม่ชัดนักเพราะเสียงครางของตน และกดจูบดังกลบมันจนหมด แต่เขาก็พอรับรู้และเดาได้ว่าสถานการณ์ในภาพยนตร์ที่เขาเปิดค้างไว้ตอนนี้ไม่สู้ดีนัก
มือสากวกกลับมาลูบสีข้างและเอวบางก่อนจะเลื่อนขึ้นบีบเค้นหน้าอกขณะมอบจูบเร่าร้อนที่ทำเอาน้ำลายไหลจากมุมปากไปตามโครงหน้าหวานและลำคอขาว
ร่างโปร่งใช้จูบแลกลิ้นเป็นตัวเบนความสนใจในการสอดนิ้วไปยังช่องทางสีหวานของคนรัก
และทันทีที่ความเย็นเฉียบพบเจอกับผนังอุ่นร้อน ร่างเล็กสะดุ้งสุดตัว
พร้อมส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ แจฮยอนจึงเพิ่มแรงบดจูบอีกครั้ง เขารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องดี
แต่ถ้าเราจบทุกอย่างแค่ตรงนี้ก็คงไม่ได้..นอกจาก
สิ่งที่เขาตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก..จุดประสงค์ที่แท้จริงที่เขามาค้างที่นี่
ทำแบบนี้กับเตนล์ตั้งแต่แรกก็จะหายไปด้วย
ความดันทุรังอาจทำให้สำเร็จ
แต่ใช่ว่าจะพอใจเสมอไป เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายคุ้นชินแล้ว แจฮยอนจึงถอนนิ้วออก
ก่อนจะผละออกมาถอดกางเกงนอนของตนออกบ้าง แกนกายใหญ่โตตรงหน้าทำเอาเตนล์หน้าซีด
สมองเริ่มประมวนผล
และเขาเกิดตั้งคำถามกับตัวเองขึ้นมาในวินาทีนั้นว่าจริงๆแล้วเขาพร้อมหรือไม่..พร้อมที่รับมือกับแกนกายตรงหน้า
พร้อมที่จะรับกับคำพูดก่นด่าของเพื่อน...พร้อมที่จะเผชิญกับอนาคตของเขาที่จะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแล้วหรือยัง
แต่แค่ครั้งเดียว คงไม่เป็นไรหรอก..
จริงไหม..
“อ๊า!!”
ยังไม่ทันหาคำตอบให้ตนเองได้
แจฮยอนก็กระแทกแกนกายเข้ามาแล้ว ผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นซี้ดปากเพราะความคับแน่น
และความเจ็บแปลบบริเวณแผ่นหลังเพราะอีกฝ่ายใช้เป็นที่ระบายความเจ็บปวด
ร่างโปร่งแช่แกนกายไว้ครู่หนึ่งเพื่อให้อีกฝ่ายสามารถปรับตัวได้ แล้วจึงค่อยขยับเนิบนาบ
เชื่องช้า
“อื้ม..เตนล์..ซี๊ด..อ่า..”
“จ-แจฮยอน...อึก...เบาลงหน่อย”
“ทนอีกนิดนะ..อืม..อย่าเกร็งล่ะ
หายใจเข้าลึกๆ..อ่า...แบบนั้น”
เตนล์คงพร้อมแล้วถึงสามารถขยับสะโพกรับกับจังหวะกระแทกของเขาได้
แจฮยอนตัดสินใจผลิกตัวให้อีกฝ่ายขึ้นมาอยู่ด้านบนและนั่งทับแกนกายของตนไว้
ร่างเล็กเชิดหน้าขึ้น ครางลั่นห้องพักพร้อมแกนกายเข้าไปลึกเกินไป
แขนแกร่งใช้ประครองกายเล็กสั่นระริก
“อื้อ
แจฮยอน..เรา..”
ไม่สามารทรงตัวได้แล้ว
เพราะอีกฝ่ายเล่นกระแทกกายสวนเข้ามา เน้นย้ำจนต้องซบลงกับแผงอกแกร่ง
และปล่อยให้อีกฝ่ายล่วงเกินจนพอใจ
ขณะเดียวกันในความล่วงเกินนั้นก็นำพาความสุขสมในแบบที่เขาคิดไม่ถึงมาให้
เตนล์อ้าปากครางแผ่วจนถึงนาทีสุดท้ายที่แจฮยอนกระแทกกายรุนแรงสองสามครั้งและความอุ่นร้อนพุ่งอยู่ในช่องทางรัก
“อ๊ะ..ฮ้ะ...อ๊า!”
“อื้มมม..เตนล์”
เราทั้งคู่หอบหายใจหนัก
เตนล์ปิดเปลือกตาลงตั้งใจฟังเสียงหัวใจของตนสลับกับเสียงหัวใจคนรักที่เต้นดังกังวาน
ตอนนั้นเองที่แจฮยอนโน้มใบหน้าลงมาจุมพิตที่กลุ่มผมของเขาอย่างอ่อนโยน
ก่อนจะผลิกตัวให้ร่างเล็กได้นอนข้างกาย
เพราะเราทำกิจกรรมเร่าร้อนมาหมาดๆทำให้ห้องที่ควรจะเย็นจัดเพราะอากาศหนาวกลับอบอ้วนขึ้นมาทันที
แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังซุกกายอยู่ใต้ผ้าห่มเพื่อปกปิดร่างกายเราไว้ ร่างเล็กขยับตัวซุกกายเข้าหาอ้อมกอดของคนรัก
ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองอีกฝ่าย
อ่านต่อได้ที่บทความในเด็กดีเลยนะคะ
เพราะยังมือใหม่กับฉากคัทมาก ยังไงก็ฝากติชมด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่า ><