วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2559

#ฟิคคุณแม่ยังสาว Chapter 10 - Be Connive [JaeTen]








                จูบของเราไม่เคยลึกซึ้งขนาดนี้มาก่อน แจฮยอนยังคงดูดดึงและขบเม้มริมฝีปากของเขาอยู่อย่างนั้น แขนทั้งสองข้างที่โอบรอบคำอ่อนแรง เตนล์รู้สึกเหมือนตนเองเป็นช็อกโกแลตในถ้วยที่ถูกวางไว้ และแจฮยอนเป็นความร้อนที่ค่อยหลอมละลายเขาช้าๆ

                สัมผัสเย็นเฉียบจากฝ่ามือสอดใต้เสื้อยืดสีหวาน พร้อมๆกับที่แจฮยอนดันร่างเล็กนอนราบไปบนฟูก ริมฝีปากของรายังคงมอบจูบให้กัน ก่อนจะผละออกมาสบตาเพียงวินาทีสั้นๆ ดวงตาหวานฉ่ำของเตนล์ปรือมองเขา ความปรารถนาจากตัวเขาสะท้อนเป็นเงาอยู่นัยน์ตา และเมื่อปิดเปลือกตาอีกครั้ง จมดิ่งอยู่ในความมืด ยิ่งทำให้ร่างกายของเขาไวต่อความรู้สึกวาบหวามที่เกิดขึ้นจากการที่ริมฝีปากขบเม้มตามลำคอ ไล่มาถึงไหปลาร้า ก่อนที่แจฮยอนจะถอดสียืดอีกฝ่ายออก แล้วครอบครองยอดอก
สีหวาน

                เตนล์ไม่รู้ว่าควรจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไร ความรู้สึกที่มีทั้งความกลัว อยากรู้ อยากลอง และอยากให้อีกฝ่ายสัมผัสเขามากกว่านั้น สมองของเขาขาวโพลนเกินกว่าจะคิดอะไรได้ในตอนนี้ มือถูกทิ้งไว้ข้างลำตัวกำผ้าห่มที่เคยคลุมตอนดูภาพยนตร์ด้วยกันไว้แน่นจนเกิดรอยยับเด่นชัด ระหว่างที่แจฮยอนไล่พรมจูบต้นแขน ไล่มาจนถึงหน้าท้องแบนราบที่หดเกร็งเพราะไม่คุ้นชินกับสัมผัสเสียวซ่านที่ชวนให้หัวใจทำงานหนัก

                “อ๊ะ...อา”

                น่าอาย...มันน่าอายเกินไป เตนล์คิดว่าตนควรยกมือขึ้นปิดริมฝีปากไว้ไม่ให้ส่งเสียง แต่ถึงอย่างนั้น ลิ้นร้อนไล้วนใกล้สะดือทำให้เขาไม่สามารถดึงมือออกจากผ้าห่มได้ ยิ่งคนรักเลื่อนลงไปเท่าไหร่ ความเสียวซ่านก็ยิ่งทวีคูณ และมันก็มากพอที่จะทำให้เขาส่งเสียงครางดังขึ้นเรื่อยๆ

                “จ-แจฮยอน...อึก...อ๊ะ...”

                ผู้ชายคนนั้นหยุดชะงัก เสียงกระเส่าที่ได้ยินไม่ได้มีเพียงความสุขสม แต่ยังแฝงความกลัวไว้ในนั้น และเพราะเขารู้สึกได้จึงยืดตัวขึ้นจูบริมฝีปากเตนล์อีกครั้ง ดึงมือเล็กมาประสานกันไว้

                “ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวนะ”

                ร่างเล็กพยักหน้า แม้จะกลัว แม้จะรู้ว่าหลังจากนี้จะมีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายตามมามากมาย แต่ตอนนี้ เขาไม่อยากจบทุกอย่างลงเพียงเท่า

                รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะตอนที่แจฮยอนค่อยดึงกางเกงขายาวของเขาร่นไปถึงเข่า ตามด้วยชั้นในสีขาว เตนล์เบือนหน้าหนีลอบซ่อนใบหน้าแดงซ่านของตน ร่างโปร่งโน้มตัวลงกดจูบที่ต้นขา ไล่มายังซอกขาและไม่ลืมที่จะกดจูบบนแกนกายเล็กแผ่วเบา เพียงเท่านั้นก็ทำให้ร่างเล็กบิดเกร็งไปทั้งตัว

                แจฮยอนใช้มือรูดรั้งแกนกายช้าๆ ภาพที่เห็นตรงหน้าคือใบหน้าสุขสมของคนรัก ดวงตาเรียวฉ่ำเยิ้มปรือมองเล็กน้อย ฟันขบกัดริมฝีปากตัวเองราวกับการกระทำนั้นจะสามารถระบายความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นได้ ไม่มีเสียงครางแหลมหูแบบที่เคยดูในหนังผู้ใหญ่ ไม่มีท่าทางอ้อนออด ยั่วเย้า หรือแม้แต่การปล่อยตัวปล่อยใจมากพอที่จะตอบสนองด้วยการกระทำแบบเดียวกันกับเขา แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเตนล์

                “อ๊ะ..ฮ่ะ..อ๊ะ”

                การเก็บอารมณ์ไว้และให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไปเป็นเรื่องยากหากยึดเอาสัญชาตญาณของผู้ชายเป็นหลัก แต่ถึงอย่างนั้นแจฮยอนก็ไม่กล้าพอที่จะทำรุนแรงกับคนรัก เราทั้งคู่ยังใหม่มากกับเรื่องนี้ จึงทำได้เพียงขยับข้อมือให้เร็วขึ้น เพิ่มให้เตนล์ปลดปล่อยได้เร็วขึ้น และพร้อมสำหรับการร่วมรักของเรา

                “อึก..อ๊า..แจ..แจฮยอน เราอึดอัด”

                “อยากให้เร็วกว่านี้หรือเปล่า”

                ไม่มีคำตอบที่เป็นคำพูด คนตัวเล็กคิดว่าแค่พยักหน้าตอบรับก็กระดากอายมากพอแล้ว เขาเผลอตัวปล่อยให้มือเลื่อนลงไปสัมผัสกับข้อมือร่างโปร่ง ริมฝีปากเผยอขึ้น พ่นลมหายใจที่ควบคุมยากขึ้นทุกที แจฮยอนรูดรั้งแกนกายอีกสองถึงสามครั้ง หยาดน้ำสีขาวขุ่นถูกปลดปล่อยจนเลอะไปทั้งมือ

                เตนล์นอนหอบหายใจแรงหลังจากได้ปลดปล่อยไปบ้างแล้ว เขาไม่ใช่พวกเด็กเนิร์ดที่เรียนหนักจนไม่รู้จักการช่วยตัวเอง แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ต้องทำเรื่องแบบนั้นทุกวัน ทุกสัปดาห์ และเพราะแบบนั้นจึงทำให้เขารู้สึกโล่งใจ พึงพอใจกับการได้ปลดปล่อยในครั้งนี้

                แจฮยอนโถมตัวเข้ามอบจูบให้เขา ตอนนั้นเองที่เตนล์ได้ยินเสียงจากโน้ตบุคซึ่งยังคงถูกตั้งไว้ในตำแหน่งเดิม แม้จะไม่ชัดนักเพราะเสียงครางของตน และกดจูบดังกลบมันจนหมด แต่เขาก็พอรับรู้และเดาได้ว่าสถานการณ์ในภาพยนตร์ที่เขาเปิดค้างไว้ตอนนี้ไม่สู้ดีนัก

                มือสากวกกลับมาลูบสีข้างและเอวบางก่อนจะเลื่อนขึ้นบีบเค้นหน้าอกขณะมอบจูบเร่าร้อนที่ทำเอาน้ำลายไหลจากมุมปากไปตามโครงหน้าหวานและลำคอขาว

                ร่างโปร่งใช้จูบแลกลิ้นเป็นตัวเบนความสนใจในการสอดนิ้วไปยังช่องทางสีหวานของคนรัก และทันทีที่ความเย็นเฉียบพบเจอกับผนังอุ่นร้อน ร่างเล็กสะดุ้งสุดตัว พร้อมส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ แจฮยอนจึงเพิ่มแรงบดจูบอีกครั้ง เขารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องดี แต่ถ้าเราจบทุกอย่างแค่ตรงนี้ก็คงไม่ได้..นอกจาก สิ่งที่เขาตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก..จุดประสงค์ที่แท้จริงที่เขามาค้างที่นี่ ทำแบบนี้กับเตนล์ตั้งแต่แรกก็จะหายไปด้วย

                ความดันทุรังอาจทำให้สำเร็จ แต่ใช่ว่าจะพอใจเสมอไป เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายคุ้นชินแล้ว แจฮยอนจึงถอนนิ้วออก ก่อนจะผละออกมาถอดกางเกงนอนของตนออกบ้าง แกนกายใหญ่โตตรงหน้าทำเอาเตนล์หน้าซีด สมองเริ่มประมวนผล และเขาเกิดตั้งคำถามกับตัวเองขึ้นมาในวินาทีนั้นว่าจริงๆแล้วเขาพร้อมหรือไม่..พร้อมที่รับมือกับแกนกายตรงหน้า พร้อมที่จะรับกับคำพูดก่นด่าของเพื่อน...พร้อมที่จะเผชิญกับอนาคตของเขาที่จะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแล้วหรือยัง



แต่แค่ครั้งเดียว คงไม่เป็นไรหรอก..
จริงไหม..



                “อ๊า!!

                ยังไม่ทันหาคำตอบให้ตนเองได้ แจฮยอนก็กระแทกแกนกายเข้ามาแล้ว ผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นซี้ดปากเพราะความคับแน่น และความเจ็บแปลบบริเวณแผ่นหลังเพราะอีกฝ่ายใช้เป็นที่ระบายความเจ็บปวด ร่างโปร่งแช่แกนกายไว้ครู่หนึ่งเพื่อให้อีกฝ่ายสามารถปรับตัวได้ แล้วจึงค่อยขยับเนิบนาบ เชื่องช้า

                “อื้ม..เตนล์..ซี๊ด..อ่า..”

                “จ-แจฮยอน...อึก...เบาลงหน่อย”

                “ทนอีกนิดนะ..อืม..อย่าเกร็งล่ะ หายใจเข้าลึกๆ..อ่า...แบบนั้น”

                เตนล์คงพร้อมแล้วถึงสามารถขยับสะโพกรับกับจังหวะกระแทกของเขาได้ แจฮยอนตัดสินใจผลิกตัวให้อีกฝ่ายขึ้นมาอยู่ด้านบนและนั่งทับแกนกายของตนไว้ ร่างเล็กเชิดหน้าขึ้น ครางลั่นห้องพักพร้อมแกนกายเข้าไปลึกเกินไป แขนแกร่งใช้ประครองกายเล็กสั่นระริก

                “อื้อ แจฮยอน..เรา..”

                ไม่สามารทรงตัวได้แล้ว เพราะอีกฝ่ายเล่นกระแทกกายสวนเข้ามา เน้นย้ำจนต้องซบลงกับแผงอกแกร่ง และปล่อยให้อีกฝ่ายล่วงเกินจนพอใจ ขณะเดียวกันในความล่วงเกินนั้นก็นำพาความสุขสมในแบบที่เขาคิดไม่ถึงมาให้ เตนล์อ้าปากครางแผ่วจนถึงนาทีสุดท้ายที่แจฮยอนกระแทกกายรุนแรงสองสามครั้งและความอุ่นร้อนพุ่งอยู่ในช่องทางรัก

                “อ๊ะ..ฮ้ะ...อ๊า!

                “อื้มมม..เตนล์”


                เราทั้งคู่หอบหายใจหนัก เตนล์ปิดเปลือกตาลงตั้งใจฟังเสียงหัวใจของตนสลับกับเสียงหัวใจคนรักที่เต้นดังกังวาน ตอนนั้นเองที่แจฮยอนโน้มใบหน้าลงมาจุมพิตที่กลุ่มผมของเขาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะผลิกตัวให้ร่างเล็กได้นอนข้างกาย เพราะเราทำกิจกรรมเร่าร้อนมาหมาดๆทำให้ห้องที่ควรจะเย็นจัดเพราะอากาศหนาวกลับอบอ้วนขึ้นมาทันที แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังซุกกายอยู่ใต้ผ้าห่มเพื่อปกปิดร่างกายเราไว้ ร่างเล็กขยับตัวซุกกายเข้าหาอ้อมกอดของคนรัก ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองอีกฝ่าย



อ่านต่อได้ที่บทความในเด็กดีเลยนะคะ
เพราะยังมือใหม่กับฉากคัทมาก ยังไงก็ฝากติชมด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่า ><